อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับตู้เย็นและช่องแช่แข็ง

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับตู้เย็นและช่องแช่แข็ง

       สำหรับเครื่องทำความเย็นหรือตู้เย็น มีบทบาทความสำคัญในการรักษาคุณภาพของอาหารเป็นอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นตามบ้านเรือนที่พักอาศัย หรือ  ตู้แช่ และตู้โชว์สินค้า อุณหภูมิบนอุปกรณ์ทำความเย็นจะช่วยให้เราตรวจสอบอุณหภูมิที่เก็บสินค้าและอาหารได้ สินค้าและอาหารบางชนิดไม่เหมาะสำหรับการแช่แข็ง เช่น ผักและผลไม้สด เพราะอาจจะเสียคุณค่าและรสชาติได้ อุณหภูมิในการจัดเก็บที่เหมาะสมที่สุดจะแตกต่างกันไปตามสินค้านั้นๆ  ตู้เย็นควรมีอุณหภูมิเท่าไร และชั้นวางไหนดีที่สุดสำหรับอาหารประเภทใด  การเก็บอาหารแช่เย็นด้วยอุณหภูมิตู้เย็น หรือตู้แช่ที่เหมาะสม จะช่วยให้อาหารมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น คงคุณภาพ ความสด และคุณค่าทางโภชนาการของสินค้าได้อีกด้วย

        อุณหภูมิโดยรวมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตู้เย็นในครัวเรือนคือระหว่าง 0°C ถึง 4°C และ -17°C ถึง -19°C ในส่วนของช่องแช่แข็ง  อุณหภูมิตู้เย็นที่เหมาะสม จะสามารถเก็บอาหารด้วยการทำความเย็นและรับประทานได้อย่างปลอดภัยเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ และชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่องแช่แข็งสามารถเก็บอาหารให้สดและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ โดยแบ่งออกเป็น

  • ช่องแช่แข็ง (Freezer Compartment) อุณหภูมิ (-17 ถึง -23°C) สำหรับเนื้อดิบ ไอศกรีม น้ำแข็ง อาหารแช่แข็ง เป็นต้น สามารถเก็บความเย็นได้ยาวนาน ในกรณีไฟดับ หลีกเลี่ยงการเปิดฝาส่วนช่องแช่แข็ง อาหารของคุณจะยังคงความสดโดยที่ไม่ได้ใช้พลังงานเลยได้อีกหลายชม.
  • ช่องแช่เย็น (Chiller Drawer) อุณหภูมิ (3 ถึง -3°C ) เป็นโซนตู้เย็นที่เย็นที่สุด ติดกับช่องแช่แข็ง เหมาะสำหรับพักเนื้อสัตว์ที่ต้องละลายน้ำแข็งจากช่องแช่แข็ง หรือเหมาะกับการพักเนื้อสัตว์หมัก 2-3 ชั่วโมงก่อนปรุงอาหาร ควรจัดเก็บไว้ในบริเวณนี้ ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แน่นหนา และในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท โยเกิร์ต นม หรือชีส ก็สามารถคงความสดไว้ได้
  • ลิ้นชักผัก-ผลไม้ (Crisper) อุณหภูมิ (2°C) เป็นลักษณะแบบช่องปิดเพียงส่วนเดียวของตู้เย็น ลิ้นชักผักผลไม้จึงมีความชื้นมากที่สุด เหมาะสำหรับผลไม้และผัก ที่เจริญเติบโตได้ดีเมื่อมีความชื้นเล็กน้อยในอากาศ

ผักผลไม้ที่ยังไม่ได้ล้าง จะสามารถเก็บไว้ได้นานกว่า เพราะน้ำสามารถส่งทำให้เชื้อราและแบคทีเรียเติบโตได้ดี ผลไม้สุก มักจะปล่อยสารเอทิลีน ซึ่งทำให้ผักที่ใส่รวมกันเน่าเสียได้ ดังนั้นจึงควรเก็บผลไม้และผักไว้ในลิ้นชักแยกกัน หรือใส่กล่องที่ปิดมิดชิด

  • ข้างประตูตู้เย็นส่วนบน (Top of the door) อุณหภูมิ (3-4°C) สำหรับผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนยและชีส ไม่จำเป็นต้องแช่เย็นจัด เมื่อเปิดแล้วควรเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแบคทีเรีย รวมถึง ซอสปรุงรส มายองเนส ซอสมะเขือเทศ มัสตาร์ด น้ำส้ม น้ำสลัด ซอสต่างๆ ก็สามารถเก็บไว้ได้
  • ส่วนกลางตู้เย็น (Refrigerator Compartment) อุณหภูมิ (2-3°C) ส่วนกลางของตู้เย็นคือบริเวณที่มีอุณหภูมิคงที่ที่สุด โดยอยู่ห่างจากคอยล์เย็นและประตู เหมาะสำหรับ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน และ ไข่ดิบที่มีความเปราะบาง และไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ คุณสมบัติของไข่สดสามารถดูดซับ และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศได้ รวมไปถึงเนื้อสัตว์หมัก หรืออาหารที่เตรียมไว้ก่อนนำไปปรุงในระยะสั้น และผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปอื่นๆ ที่ไม่ต้องการการทำความเย็นสูง และการเก็บเครื่องดื่มอื่นๆเช่นกัน

 การจัดการอุณหภูมิให้เหมาะสมกับวัตถุดิบ

แบคทีเรียเติบโตและทวีคูณอย่างรวดเร็วในอุณหภูมิระหว่าง 4 ถึง 60 °C และจุลินทรีย์ในอาหารเติบโตเร็วกว่ามากในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 21 ถึง 47 °C นั่นคือที่มาของการทำความเย็น ตู้เย็นส่วนใหญ่ถูกตั้งค่าไว้ที่ 4°C หรือต่ำกว่าเพื่อยับยั้งและชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย ตัวอย่างเช่น ผัก/ผลไม้ : 1-8 °C นม : 0-1 °C โยเกิร์ตและชีส : 1-8 °C  เนย : 4-8 °C  เค้ก : 2-8 °C  ขนมปัง : 5-15 °C  เนื้อสัตว์ : -2-2 °C  อาหารทะเล : -2-5 °C  ไอศครีม : -25 ถึง -18°C  น้ำแข็ง : -5 °C ด้วยอุณหภูมิต่อไปนี้ เราจะสามารถจัดเก็บผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มได้เหมาะสมในอุณหภูมิของตู้เย็น หรือตู้แช่ได้อย่างถูกต้อง เพื่อคงคุณภาพและถนอมคุณค่าทางโภชนาการได้ยาวนานที่สุด เพื่อคนในครอบครัว รวมไปถึงลูกค้าในธุรกิจร้านอาหาร หรือร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต  ปัจจุบันตู้เย็นรุ่นใหม่มาพร้อมกับการควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ และตู้เย็นอัจฉริยะบางรุ่นยังสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของตู้เย็นได้ผ่านแอพสมาร์ทโฟน หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ วิธีหนึ่งที่น่าเชื่อถือที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าตู้เย็นของคุณมีอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ การใช้เทอร์โมมิเตอร์ ก็สามารถตรวจสอบอุณหภูมิได้เช่นกัน

        ดังนั้นควรตรวจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานและหมั่นตรวจเช็คการแช่ของในตู้เย็นให้เหมาะสม  ก็จะสามารถช่วยทำให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงทำให้ประหยัดไฟได้อีกด้วย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสารทำความเย็น สามารถโทรสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น้ำยาแอร์ดอทคอมศูนย์รวมน้ำยาตู้เย็นทุกชนิดที่  Line@namyaair  หรือ โทร.   094-341-3124

สนใจสั่งซื้อน้ำยาแอร์ กับน้ำยาแอร์ดอทคอม โทรเลย 0943413124

Add Line : @namyaair เพื่อสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *