มารู้จัก Kigali Amendment คืออะไร และสำคัญอย่างไร?

มารู้จัก Kigali Amendment คืออะไร และสำคัญอย่างไร?

ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาเนิ่นนาน สาเหตุหลักเกิดจากการกระทำของมนุษย์ มนุษย์ได้ทำลายทรัพย์พยากรธรรมชาติไปเป็นจำนวนมาก สารเคมีที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ผลิตสิ่งต่าง ๆ ก็มีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน สารเคมีที่จะกล่าวถึงในที่นี้ คือ สารเคมีจำพวกน้ำยาทำความเย็น หรือ น้ำยาแอร์ สารเคมีเหล่านี้มีคุณสมบัติในการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และสภาวะเรือนกระจก

นานาชาติจึงตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้มีการทำข้อตกลงเพื่อจุดประสงค์ในการลด ละ เลิกการใช้สารเคมีจำพวกสารทำความเย็น ภายใต้ชื่อ พิธีสารมอนทรีออล (Montreal Protocol) เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2530 มีประเทศที่ให้สัตยาบันภายใต้พิธีสารนี้รวม 197 ประเทศ และประเทศไทยก็เป็น 1 ในนั้นโดยให้สัตยาบันเข้าร่วมในเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2532 โดยพิธีสารมอนทรีออลได้มีการประชุมมาแล้วหลายครั้งเพื่อเป็นการประเมินและติดตามผลว่าแต่ละประเทศได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไร ควรปรับหรือแก้ไขข้อตกลงตรงจุดใดบ้าง ตั้งแต่ พ.ศ. 2532 พิธีสารนี้ได้ทบทวนมา 8 ครั้งโดยครั้งล่าสุดได้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2559 ณ กรุงคิกาลี จึงใช้ชื่อว่า พิธีสารฉบับแก้ไขคิกาลี (Kigali Amendment) ในเนื้อหาสาระจะเป็นการลด ละ เลิกใช้ก๊าซ 3 กลุ่ม ที่มีค่า GWP สูง นั่นคือสารจำพวกไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน หรือ HFCs ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็นสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นแทนการใช้สาร CFCs เช่น R134a, R407C และ R410A เป็นต้น สารทำความเย็นในที่มีค่า GWP ต่ำที่มีโอกาสใช้ในอนาคต ได้แก่ R32, R290, R1233zd, R1234yf  เป็นต้น ในส่วนของ R290 (Propane) ในการใช้เป็นสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศจะต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากสามารถติดไฟได้

ระยะเวลาที่เริ่มลดปริมาณการใช้สารที่กล่าวมานั้นในพิธีสารฉบับแก้ไขคิกาลี  แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มประเทศ ได้แก่ Article 5 Parties ได้แก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย และ Article 2 Parties ได้แก่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดย 2 กลุ่มนี้มีข้อกำหนดและระยะเวลาการลดที่ต่างกัน โดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะลดก่อน และสำหรับประเทศกำลังพัฒนา จะดำเนินการลดภายหลัง โดยมีระยะเลาผ่อนผันให้ สำหรับประเทศไทยที่ถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะถูกกำหนดให้ใช้ค่าเฉลี่ย 3 ปี ของข้อมูลการใช้สาร HFCs และ HCFCs ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 มาเป็นตัวเลขในการคำนวณ

ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจในการลด ละ เลิกสารทำความเย็นตามพิธีสารดังกล่าว จะช่วยลดการทำลายชั้นบรรยากาศโลก และจะทำให้โลกที่อาศัยอยู่จะเป็นไปในทิศทางที่สะอาดขึ้น และยืดอายุโลกใบนี้ให้ยาวนานขึ้นมากด้วย นอกจากนี้ การหันมาเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศให้เป็นระบบ Inverter ก็เป็นการก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศเดิมเป็นเครื่องปรับอากาศชนิด Inverter จะช่วยประหยัดพลังงาน และลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศได้อีกทางหนึ่ง ถ้าหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้น้ำยาแอร์ หรือการลด เลิกใช้ เกี่ยวกับสารที่ทำลายชั้นโอโซน สามารถโทรติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น้ำยาแอร์ดอทคอม ศูนย์รวมน้ำยาแอร์ทุกชนิด ที่ Line@namyaair หรือ โทร. 094-341-3124

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *