ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อน้ำยาแอร์ทั่วไป

ด้วยสภาวะอากาศของประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนทำให้แทบจะทุกบ้านมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน นอกจากการปรับอากาศภายในบ้าน ระบบปรับอากาศในรถยนต์ก็จำเป็นเช่นเดียวกัน ด้วยสภาวะอากาศที่ร้อนทำให้เครื่องปรับอากาศทุกชนิดต้องทำงานหนัก น้ำยาแอร์ถือเป็นตัวแปรหลักในการทำให้เกิดอุณหภูมิที่เย็นขึ้น น้ำยาแอร์ทำความเย็นที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิด ในแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการใช้งานแตกต่างกันไป ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และประเภทของการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าอย่างสูงสุด น้ำยาแอร์ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งแยกประเภทหลักๆได้ 3 ประเภท ได้แก่

- น้ำยาแอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในอาคารและบ้านเรือน
น้ำยาแอร์บ้านรุ่นแรกที่นิยมใช้กันคือ น้ำยาแอร์ R22 เป็นน้ำยาแอร์สารประกอบเดียว เป็นน้ำยาแอร์ที่นิยมใช้กันในเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัย หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่ก็เป็นสารที่ก่อให้เกิดการทำลายโอโซนในชั้นบรรยายากาศโลกอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดดสภาวะโลกร้อน จึงมีการคิดค้นพัฒนาน้ำยาแอร์บ้านให้มีสารที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนน้อยลง ต่อมาน้ำยาแอร์ R410Aจึงได้ถูกคิดค้นและพัฒนาเพื่อมาแทนน้ำยาแอร์บ้าน R22 น้ำยาแอร์ตัวนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของน้ำยา 2 ชนิด คือ R32 และ R125 ในปัจจุบันผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศนิยนใช้น้ำยาแอร์ตัวนี้ในการทำความเย็น สามารถหาซื้อได้ง่ายเช่นกัน ส่วนของเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยาชนิดนี้ หากพบเจอปัญหาน้ำยาแอร์รั่ว ต้องเติมน้ำยาแอร์ ทางช่างจะต้องทำการปล่อยน้ำยาแอร์ที่มีอยู่ในเครื่องทิ้งทั้งหมดก่อนที่จะมีการเติมน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ เนื่องจากสารตัวนี้เป็นส่วนผสมของสาร 2 ชนิด ต้องมีปริมาณที่เท่ากันทุกครั้ง นอกจากการพัฒนาน้ำยาแอร์ R410A แล้ว ในขณะเดียวกันน้ำยาแอร์บ้าน R32 ก็เป็นน้ำยาแอร์บ้านทางเลือกอีกตัวหนึ่งซึ่งมาทดแทน R22 เช่นกัน มีคุณสมบัติไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศโลกเช่นเดียวกับ R410A แต่มีค่าที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนน้อยกว่า มีราคาที่ถูกกว่า R410A เวลาที่น้ำยาแอร์ขาดสามารถเติมเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องถ่ายน้ำยาเดิมทิ้ง เริ่มมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ในแอร์ขนาดเล็ก

- น้ำยาแอร์สำหรับรถยนต์
มีชื่อเรียกว่า R134a เป็นน้ำยาแอร์รถยนต์ที่มีขายกันทั่วไปและมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ และศูนย์บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ทั่วไป ในอนาคตน้ำยาแอร์รถยนต์ R134a จะเริ่มจำกัดการใช้งาน เนื่องจากยังมีค่าสภาวะทำให้โลกร้อนสูงอยู่ และจะมีตัวที่พัฒนามาแทนที่ คือ น้ำยา R1234yf ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวที่มาทดแทน R134a ในรถยนต์ที่ผลิตในรุ่นใหม่ๆต่อไป

- น้ำยาแอร์สำหรับตู้เย็น ตู้แช่
มีหลายชนิดและการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่
ในปัจจุบันน้ำยาแอร์ตู้แช่ห้องเย็น และ อุตสาหกรรมความเย็นต่างๆ ที่นิยมใช้งานและเป็นที่รู้จักกันมานาน จะเรียกว่าน้ำยาแอร์ R404A มีสารผสมด้วยกัน 3 ตัว คือ (R125+143a+134a) ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ทำลายชั้นโอโซน มีวางจำหน่ายค่อนข้างแพร่หลาย หาซื้อได้ง่าย ส่วนอีกหนึ่งชนิดที่มีความนิยมเช่นเดียวกันคือ น้ำยาแอร์ R507 ที่มีสารผสมด้วยกัน 2 ตัว คือ (R125+R143a) ใช้ในส่วนของอุตสาหกรรมความเย็น น้ำยาแอร์ตัวนี้จัดได้ว่ามีประสิทธิภาพการทำความเย็นได้ดี ซ่อมบำรุงได้ง่ายและถ้าเกิดการรั่วไหลของน้ำยาแอร์สามารถเติมน้ำยาได้เลยโดยไม่ต้องปล่อยน้ำยาออกให้หมด น้ำยาแอร์ทั้งสองตัว (R404A และ R507) ยังคงมีค่าความสามารถในการทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงมีการคิดค้นน้ำยาแอร์สำหรับตู้แช่ที่มีสารก่อภาวะเรือนกระจกที่น้อยลง ได้แก่ น้ำยาแอร์ R407F ซึ่งจะมีสารประกอบ 3 ชนิด (R32+R125+R134a) เป็นน้ำยาแอร์ที่ลดภาวะโลกร้อนได้อย่างดี แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากสำหรับผู้ใช้ เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง และต้องมีความชำนาญในการใช้น้ำยาแอร์ตัวนี้ นอกจาก R407F แล้วนั้น ยังมีน้ำยาตู้แช่อีก 2 ชนิด คือน้ำยาแอร์ R448A และ R449A ที่ค่าความสามารถในการก่อภาวะเรือนกระจกที่ต่ำ โดยที่สารทำความเย็น R448A มีส่วนผสมของน้ำยาแอร์ 5 ชนิดด้วยกัน(R32+R125+R134a+R1234yf+R1234ze) และ น้ำยาแอร์ R449A เป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของน้ำยาแอร์ 4 ชนิด (R32+R125+R134a+R1234yf) น้ำยาแอร์ทั้ง 2 ชนิดนั้น ยังมีราคาสูง ไม่เป็นที่นิยม และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก หาซื้อได้ยากในท้องตลาด
การเลือกใช้น้ำยาแอร์ควรเลือกให้ตรงกับระบบทำความเย็นนั้นๆ และให้ตรงจุดประสงค์การใช้งานของแต่ละประเภท โดยคำนึงถึง คุณภาพ มาตราฐาน ราคา วัตถุประสงค์การใช้งาน และตัวแทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์เพื่อจะได้สามารถให้คำปรึกษาแนะนำได้ หากท่านใดกำลังหาซื้อน้ำยาแอร์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาแอร์บ้าน น้ำยาแอร์รถ หรือน้ำยาแอร์ตู้เย็น-ตู้แช่ “น้ำยาแอร์ดอทกอม” เราคัดสรรน้ำยาแอร์ทุกชนิดที่มีคุณภาพจากทุกยี่ห้อ มารวบรวมไว้ให้คุณได้ตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างง่ายดาย แค่คลิกเดียว ที่ Line@ หรือโทร xx-xxx-xxxx