การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดห้องและประหยัดไฟ

          การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดห้องและประหยัดไฟ

เทคนิคการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศอย่างไรให้เหมาะกับขนาดห้องและช่วยประหยัดไฟ เนื่องจากประเทศไทยมี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด! แม้จะมีพายุฝนให้พอชุ่มฉ่ำ แต่ก็ยังหนีไม่พ้นแสงแดดอุ่นๆ ซึ่งไอเทมสุดคูลที่ช่วยกู้สภาพอากาศให้ดีขึ้นได้ จึงหนีไม่พ้นการเลือกแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ ซึ่งปัจจุบันแทบจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่แทบทุกบ้านต้องมี ยิ่งร้อนยิ่งเร่งเครื่องปรับอากาศจนเป็นการเร่งค่าไฟทางอ้อมและอาจทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากจนเกินไป แต่เราสามารถลดปัญหาต่างๆ เหล่านี้โดยการเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะกับขนาดห้อง
            1. เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง

มีการทำงานแบบหลายฟังก์ชัน ทั้งโหมดประหยัดไฟ กรองฝุ่น หรือในบางยี่ห้อบางรุ่นที่สามารถกรองได้แม้กระทั่งฝุ่น PM2.5 อีกทั้งเครื่องปรับอากาศติดผนังส่วนใหญ่จะมีขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัด ออกแบบสวยงาม จึงเหมาะสมกับบ้านและคอนโด
            2. เครื่องปรับอากาศแบบแขวนเพดาน

เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยเพราะฟังก์ชันการทำงานที่มีความเหมือนกับเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง แต่สามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึงและเร็วกว่า การติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบแขวนเพดานจึงเหมาะกับห้องขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่เยอะอย่างห้องประชุม หรืออาคารสำนักงาน

  1. เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น

    เป็นเครื่องปรับอากาศที่วางอยู่บนพื้นห้อง  จุดเด่นของเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น คือสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับห้องที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานแบบพอดี ไม่เหมาะกับห้องกว้างและเพดานสูง เพราะจะทำให้ได้รับความเย็นไม่ทั่วถึง อย่างไรก็ตามเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้นก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในปัจจุบัน เนื่องจากต้องอาศัยพื้นที่ในการจัดวางนั่นเอง

  2. เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าเพดาน

    ข้อดีหลักๆ ของการเลือกแอร์ประเภทนี้ คือช่วยประหยัดพื้นที่ สามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึงทุกทิศทาง บวกกับดีไซน์ที่สวยงามกลมกลืนไปกับห้อง หรือฝ้าเพดาน จึงเหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ หรือห้องที่มีพื้นที่กว้าง เพดานสูง แน่นอนว่าราคาเครื่องต่อ BTU ก็ค่อนข้างสูง และบำรุงรักษายากตามไปด้วยเช่นกัน

            ทั้งนี้ BTU (British Thermal Unit) คือ หน่วยที่ใช้วัดความเย็นของแอร์ ยิ่งแอร์ที่มีจำนวน BTU สูง ก็ยิ่งมีความสามารถในการผลิตความเย็นได้มาก และมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นในพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เครื่องปรับอากาศใช้พลังงานในการทำความเย็นมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหมายความว่าจะส่งผลต่อตัวเลขค่าไฟรายเดือนที่จะตามมานั่นเอง ดังนั้นการเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับห้อง จึงควรเลือกขนาดแอร์ที่มี BTU ที่เหมาะสม
            อีกทั้งสิ่งแรกที่ควรทำก่อนเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศคือ การเช็กขนาดพื้นที่ห้อง เพราะหากห้องมีขนาดเล็กแต่เลือกแอร์ BTU ใหญ่เกินไป นอกจากจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายตอนซื้อและค่าใช้จ่ายในการติดตั้งก็จะมีราคาสูงอีกด้วย หรือถ้าเป็นห้องขนาดใหญ่แต่เลือกเครื่องปรับอากาศ ที่มี BTU น้อย อาจทำให้ห้องไม่เย็น เปลืองไฟแล้ว และยังทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักสู้กับอุณหภูมิของอากาศภายนอกจนอาจทำให้เครื่องปรับอากาศเสื่อมสภาพก่อนเวลาได้
            หากท่านพบเจอปัญหาของเครื่องปรับอากาศไม่เย็นหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลแอร์รถยนต์ หรือ น้ำยาแอร์บ้าน อะไหล่แอร์บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ น้ำยาแอร์ดอทคอม จำหน่ายน้ำยาแอร์บ้านทุกยี่ห้อ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบแอร์บ้านที่มีคุณภาพมาตรฐาน และมีพนักงานบริการตอบคำถามให้คำแนะนำจากประสบการณ์ด้านการจำหน่ายน้ำยาแอร์มากว่า 20 ปี ติดต่อที่ Line: @namyaair หรือโทร 094-341-3124

สนใจสั่งซื้อน้ำยาแอร์ กับน้ำยาแอร์ดอทคอม โทรเลย 0943413124

Add Line : @namyaair เพื่อสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *