อุตสาหกรรมตู้แช่เชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ใช้น้ำยาแอร์ชนิดไหนบ้าง ในประเทศไทย อุตสาหกรรมตู้แช่เชิงพาณิชย์ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการใช้สารทำความเย็นหรือ น้ำยาแอร์ มาใช้ในงานระบบ ซึ่งเป็นสารเคมีที่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพราะในประเทศไทยไม่สามารถผลิตขึ้นได้เอง การใช้งานในระบบทำความเย็นต่างๆ ทั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเรือน อาคาร รถยนต์ ห้องเย็นและตู้แช่ รวมทั้งอุตสาหกรรมทั่วๆไปด้วยที่จะต้องใช้อุณภูมิความเย็นในการจัดเก็บสินค้าต่าง ๆ ในที่นี้จะแยกในส่วนของน้ำยาที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมตู้แช่เชิงพาณิชย์ ว่าส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้นปัจจุบันนิยมและใช้น้ำยาแอร์ชนิดไหนกันบ้าง แต่ละชนิดมีส่วนประกอบและคุณสมบัติอย่างไร ในระบบตู้แช่ น้ำยาแอร์หลักๆที่ใช้กันแบ่งตามรายละเอียดต่างๆได้ดังนี้ R404a เป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของน้ำยา 3 ชนิดรวมกัน (R125+R143+R134a) คุณสมบัติไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ ประหยัดพลังงาน มีค่าแรงดันที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 170-180 Psi จุดเดือดอยู่ที่ -46.6 C◦ ใช้ในอุณหภูมิติดลบ ใช้ในสินค้าพวกตู้แช่ห้องเย็นและอุตสาหกรรมทำความเย็น ถ้าน้ำยาแอร์ในระบบขาดต้องปล่อยทิ้งแล้วเติมใหม่ทั้งหมด โดยสามารถใช้เกจ์วัดแรงดันในการเช็คระบบให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม R507 เป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของน้ำยา 2 ชนิด (R125+R143) มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 180-190 Psi จุดเดือดอยู่ที่ -47.1
Tag Archives: นํ้ายาเเอร์
ทำไมต้องพัฒนาระบบแอร์รถยนต์ให้มีประสิทธิภาพ ประเทศไทยซึ่งมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ถ้าจะกล่าวยานพาหนะ สิ่งแรกที่นึกถึงคือ รถยนต์ ซึ่งมีความสำคัญ ในการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์อีกอย่าง คือ ระบบปรับอากาศของรถยนต์ ทำหน้าที่ ทำให้เกิดความเย็นมีการถ่ายเทความร้อน เพิ่มความสะดวกสบายของผู้ใช้รถยนต์ ดังนั้นการพัฒนาระบบแอร์รถยนต์ จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการที่มีประสิทธิภาพให้มากขึ้น ลดการใช้พลังงาน ลดการผลิตก๊าซเรือนกระจก บทความนี้จะทำให้เราทราบว่า การพัฒนาระบบแอร์รถยนต์ดีอย่างไร ลดการใช้สารทำความเย็นที่ทำลายโอโซน การใช้สารทำความเย็นที่ไม่มีผลกระทบต่อโอโซนในระบบแอร์รถยนต์ การเพิ่มความสะดวกสบายของผู้ใช้รถยนต์ มีการพัฒนาระบบแอร์ที่สามารถปรับแต่งอุณหภูมิ จะปรับให้จะร้อนหรือเย็นได้อย่างรวดเร็วและใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ การใช้เทคโนโลยีช่วยในการกรองอากาศ มีการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยในเรื่องของการฟอกอากาศ ภายในรถยนต์ เพื่อปรับอากาศให้บริสุทธิ์ภายในรถยนต์ การพัฒนาน้ำยาทำความเย็นใหม่ ที่มีอัตราการไหลที่ดีกว่าและใช้พลังงานน้อยกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รถไฟฟ้าและแอร์รถยนต์ มีการพัฒนาะระบบยนต์ไฟฟ้าในระบบแอร์รถยนต์ เพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำความเย็น ให้มีประสิทธิภาพสูง ลดการใช้เชื้อเพลิงในการทำความเย็น การใช้แหล่งพลังงานทดแทน ในการพัฒนาระบบแอร์รถยนต์ ที่ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์หรือแหล่งพลังงานไฟฟ้าทดแทนอื่นๆ เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงในการทำความเย็น การลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีการออกแบบระบบแอร์ เพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาจมีการใช้วัสดุที่รองรับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หรือการพัฒนาระบบรองรับการทดแทนที่ยั่งยืน การนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ มีการปรับการทำงานของระบบแอร์รถยนต์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และระบบควบคุมอื่น โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ นวัตกรรมในการควบคุมแอร์ มีการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะและเซ็นเซอร์ในระบบแอร์รถยนต์เพื่อปรับแต่งอุณหภูมิอย่างแม่นยำและอัตโนมัติ ทั้งจากภายนอกและภายในรถยนต์
สาเหตุที่ทำให้แอร์บ้านไม่เย็น 1.BTU ของเครื่องปรับอากาศไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง ควรเลือกขนาด BTU ของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของห้องที่จะติดตั้ง เพราะหากขนาด BTU กับห้องไม่เหมาะสมกันก็จะทำให้เครื่องปรับอากาศมีความเย็นไม่ทั่วถึง ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า ห้องไม่ได้ใหญ่มากติดเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กก็พอ แต่แล้วความจริงหากเครื่องปรับอากาศที่ขนาด BTU ต่ำเกินไป คอมเพรสเซอร์ของแอร์ก็จะทำงานตลอดเวลา หรือหากเครื่องปรับอากาศที่มี BTU สูงเกินไป คอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะตัดบ่อย ยังไม่ทันเกิดความเย็นก็ตัดแล้ว จึงทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น เย็นช้า แถมยังทำให้กินไฟมากกว่าปกติ ตั้งโหมดทำความเย็นผิด บางทีสาเหตุที่ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่เย็น อาจจะเกิดขึ้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราอาจมองข้ามได้ อย่างเช่น รีโมตเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน หรือปรับการตั้งค่าอุณหภูมิที่ผิดไป เผลอเปลี่ยนจากโหมดความเย็นที่เคยใช้ไปเป็นโหมดพัดลมแทน โหมดพัดลม (Fan) จะทำหน้าที่ลดกลิ่นอับของตัวเครื่องปรับอากาศ และยังสามารถยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็น รวมทั้งยัองช่วยขับความชื้นสะสมข้างใน จึงทำให้โหมดพัดลมไม่สามารถกระจายความเย็นได้ดีเท่าโหมดความเย็น (Cool) จำนวนคนในห้อง การที่ภายในห้องมีจำนวนคนอยู่มากเกินไป เป็นอีกสาเหตุที่หลาย ๆ คนมองข้าม ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศภายในห้องไม่มีความเย็นหรือมีความเย็นช้า เพราะการที่มีจำนวนคนในห้องเพิ่มมากขึ้นจะมีการแย่งกันใช้อากาศที่มากขึ้น เลยทำให้เครื่องปรับอากาศนั้นต้องทำงานหนักขึ้น แต่หากเรารู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศไม่เย็นเพราะจำนวนคนในห้องเยอะ ก็อาจจะต้องลดอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศลง แอร์มีสิ่งสกปรกอุดตัน ควรล้างเครื่องปรับอากาศทุก ๆ 6 เดือน
ข้อควรทราบ ในการเติมถังบรรจุน้ำยาแอร์ หากจะกล่าวคำว่า สารทำความเย็น ที่เราทราบกันดีอยู่ว่า คือ น้ำยาแอร์ เป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติไม่มีพิษ ไม่มีกลิ่น จุดเดือดต่ำกว่าสารทั่วไป เมื่อผ่านกระบวนการอัดสารทำความเย็นให้เป็นไอ ไหลเวียนภายในระบบเครื่องปรับอากาศและสร้างความเย็น ภายในรถยนต์ให้เราได้เย็นสบาย อีกสิ่งหนึ่งที่จะกล่าวเกี่ยวกับน้ำยาแอร์ คือ ภาชนะบรรจุถังน้ำยาแอร์ ก็มีความสำคัญเช่นกัน การเติมถังบรรจุน้ำยาแอร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ จำเป็นมากๆ ในการใช้งานถังน้ำยาแอร์ หรือ สารทำความเย็น แบบนำถังกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่างแอร์ทุกๆท่าน จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ข้อควรทราบในการเติมถังบรรจุน้ำยาแอร์ดังนี้ กรณีเติมน้ำยาแอร์ลงถัง แม้จะเติมมากหรือเติมน้อย ต้องใช้เกจ์วัดน้ำยาวัดทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ห้ามนำถังบรรจุน้ำยาแอร์ ต่างชนิดกัน มาใส่แทนกันเด็ดขาด ห้ามถังบรรจุน้ำยาแอร์ ไม่ว่าจะมีน้ำยาแอร์ หรือน้ำยาแอร์หมดแล้ว ตากแดดเป็นเวลานาน ควรเก็บรักษาไว้ในที่ร่มและไม่ร้อน ห้ามวาง หรือใช้งานถังน้ำยาแอร์ ใกล้ที่ที่มีเปลวไฟ หรือใกล้กับสิ่งที่ติดไฟง่าย ป้องกันการระเบิดของตัวถังบรรจุน้ำยาแอร์ หากมีการถ่ายเทน้ำยาแอร์ส่วนเกินออกจากถังน้ำยา จะต้องรู้วิธีการ และอ่านขั้นตอนการเปิดถ่ายเทน้ำยาแอร์ที่ติดข้างถังแบบละเอียด เพราะน้ำยาแอร์หลายประเภทนั้น ทำปฏิกิริยากับอากาศ อาจทำให้เกิดประกายไฟ้ได้ ถ้าถังบรรจุน้ำยาแอร์คุณภาพของถัง จะมีระบบความปลอดภัยอยู่ภายใน ถึงแม้ตัวถังจะหนาก็จริง แต่กันการระเบิดของแรงดันจำนวนมากไม่ได้ หากใช้งานไปนานๆ
ระบบปรับอากาศ Air Conditioning ขนาดใหญ่ในอาคาร ระบบปรับอากาศ Air Conditioning คืออะไร ตามปกติเมื่อได้ยินคำว่า “การปรับอากาศ หรือ ระบบปรับอากาศ” สิ่งแรกที่ทุกคนเข้าใจก็คือการทำอากาศให้เย็นเท่านั้น แต่ในความหมายที่แท้จริงของคำว่าการปรับอากาศแล้ว จะต้องมีความหมายรวมถึงการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องปรับอากาศ ผ่านคอยล์เย็นและสารทำความเย็น ให้มีอุณหภูมิพอเหมาะให้คนที่อยู่ข้างในมีความรู้สึกสบาย ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ขออากาศการระบายอากาศเสียทิ้ง รวมทั้งการหมุนเวียนของอากาศบริสุทธิ์และการกรองอากาศที่สกปรกให้สะอาด ระบบปรับอากาศในอาคาร แตกต่างอย่างไรกับเครื่องปรับอากาศแบบปกติ เครื่องปรับอากาศแบบปกติหรือแอร์บ้าน จะมีหลักการทำงานคล้ายๆกับระบบปรับอากาศภายในอาคาร จะแตกต่างกันที่ แอร์บ้านจะให้สารทำความเย็นวิ่งผ่านคอยล์เย็นทำให้เกิดลมเย็น ส่วนระบบปรับอากาศในอาคารหรือ Chiller จะให้สารทำความเย็นทำน้ำให้เย็นก่อน แล้วจึงส่งน้ำเย็นไปหา ท่อส่งลม หรือ AHU เพื่อผลิตอากาศเย็นเข้าไปยังพื้นที่ที่ต้องการทำความเย็น การเลือกรูปแบบระบบทำความเย็นในอาคาร สำนักงาน หรือบ้าน จะดูจากพื้นที่ที่ต้องการทำความเย็นเป็นหลัก ระบบปรับอากาศมีกี่ประเภท กี่แบบ ระบบปรับอากาศที่นิยมใช้ในปัจจุบันสามารถแบ่งได้ดังนี้คือ ระบบปรับอากาศระบบน้ำยา ( Direct Expansion System ) ขนาด 1-25 Ton ความเย็น นิยมใช้กับบ้านพัก , คอนโดมิเนียมที่พักอาศัย , สำนักงานที่ไม่ใหญ่มาก
R32 สารทำความเย็นที่ไม่ทำลายโลก ในระบบปรับอากาศ สารทำความเย็นเป็นสารเคมีที่ใช้เพื่อดูดซับความร้อนและสามารถสร้างลมเย็นผ่านคอมเพรสเซอร์และคอยล์เย็น สารทำความเย็นที่ใช้ในระบบเครื่องปรับอากาศมีหลายประเภท และ R32 เป็นหนึ่งในสารทำความเย็นที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยและยังคงประสิทธิภาพในการถ่ายเทความร้อนไว้ คุณสมบัติของน้ำยาทำความเย็น R32 – เป็นสารประกอบเดี่ยว องค์ประกอบของสารทำความเย็นชนิดนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งต่างจากสารทำความเย็นที่เป็นสารผสมชนิดอื่นๆ – ค่า GWP (Global Warming Potential) ที่ต่ำกว่าสารทำความเย็นที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น R410A ที่ใช้กันโดยทั่วไป จะมีค่า GWP อยู่ที่ 2090 ซึ่งมากกว่าเป็นสามเท่าของ R32 ที่มีค่า GWP เพียง 675 เท่านั้น – มีค่าศักยภาพในการทำให้โอโซนลดลง ODP (Ozone Depletion Potential) เป็นค่าปริมาณความเสียหายสารเคมีสามารถทำให้เกิดขึ้นต่อชั้นโอโซน R32 เป็นสารประกอบไฮโดรฟลูออโรคาร์บอนที่มีค่า ODP เท่ากับศูนย์ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อชั้นโอโซน – R32 มีอัตราการเผาไหม้ที่ต่ำ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการกระทบกับสภาพแวดล้อมที่ทำให้อุณภูมิโลกร้อนเพิ่มขึ้น – R32 มีประสิทธิภาพความเย็นสูง
ทำความรู้จักระบบของเหลวในรถยนต์ มีอะไรบ้าง และควรเปลี่ยนตอนไหนดี สังคมไทยในปัจจุบัน มีการใช้รถยนต์กันมากขึ้น ซึ่งในแต่ละปี ยอดการผลิตรถยนต์เพิ่มมากขึ้นทุกปี การมีรถยนต์ใช้ส่วนตัวทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากขึ้น ในขณะเดินทาง ยิ่งช่วงหน้าร้อนอากาศยิ่งร้อนจัด ทำให้ทุกคนไม่อยากออกไปข้างนอก ถ้าจำเป็นต้องออก ก็จะใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสบายกว่า เพราะในรถยนต์มีเครื่องปรับอากาศ ทำให้เราผ่อนคลายความร้อนได้ ในขณะเดินทาง และของเหลมในรถยนต์ ก็มีส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนของรถยนต์ อาทิเช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำยาหล่อเย็น น้ำมันเฟืองท้าย ล้วนเป็นส่วนสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในรถยนต์ ที่มีกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่าย ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ต้องหมั่นดูแลรักษาและคอยตรวจเช็คให้อยู่ในสถานะที่สมบูรณ์ เรามาทำความรู้จัก ของเหลวในรถยนต์ดังต่อไปนี้ น้ำมันเครื่อง ถือเป็นของเหลวที่ต้องเปลี่ยนบ่อยมากที่สุด เพราะมีหน้าที่หล่อลื่น ลดการเสียดสี และ ความร้อนของเครื่องยนต์ การเปลี่ยนตามกำหนดเวลาจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องเย็นโดยตรง กำหนดให้เปลี่ยนทุกๆ 8,000 – 10,000 กม. หรือทุกๆ 6 เดือน (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อนกัน) น้ำมันเพาเวอร์ หรือ น้ำมันสำหรับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ช่วยให้หมุนพวงมาลัยได้อย่างเบาแรง ยกเว้นในรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปใช้พวงมาลัยไฟฟ้า ควรหมั่นตรวจเช็กและเติมให้อยู่ในระดับปกติเสมอ ไม่ควรเติมมากเกินไป เพราะจะขยายตัวเพิ่มเมื่อได้รับความร้อน
คุณสมบัติที่ดีของคอมเพรสเซอร์ในระบบทำความเย็น น้ำมันคอมเพรสเซอร์ น้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันคอมแอร์ ที่ใช้ทั้งในงานระบบปรับอากาศ และระบบทำความเย็นทำหน้าที่หล่อลื่น ชิ้นส่วนในคอมเพรสเซอร์ และยังช่วยเพิ่มกำลังอัด ระบายความร้อน และยังช่วยปกป้องส่วนประกอบของคอมเพรสเซอร์อีกด้วย ทำให้น้ำมันหล่อลื่นมีความสำคัญในระบบทำความเย็นอย่างมาก น้ำมันหล่อลื่นที่ดี ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพอย่างเต็มระบบ ดังต่อไปนี้ ปริมาณน้ำและกรดต่ำ การมีน้ำอยู่ในสารหล่อลื่นทำความเย็นเป็นสาเหตุที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ของการทำงานที่ผิดปกติในระบบการทำความเย็น และปรับอากาศ หากมีน้ำและความชื้นในระบบที่มากเกินไป จะทำให้เกิดกรด และการกัดกร่อนในระบบ ทั้งยังลดความสามารถในการหล่อลื่นน้ำมัน ความหนืดลดลง ลดความสามารถในความเข้ากันได้กับสารทำความเย็นอีกด้วย และกรดที่มากเกินไป จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน การไฮโดรไลซิส และการเสื่อมสภาพของน้ำมันหล่อลื่น ทำให้เกิดกรดในระดับสูง ซึ่งมีส่วนทำให้ส่วนประกอบของระบบสึกกร่อน และเป็นผลให้เกิดการรั่วไหลของสารทำความเย็น ความหนืด น้ำมันคอมเพรสเซอร์จะมีความหนืดที่เหมาะสมเพื่อรักษาชั้นฟิล์มบางๆ ของสารหล่อลื่นระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ลดการเสียดสีและการสึกหรอ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์จะระบุความหนืดตามปัจจัยต่างๆด้วย เช่น อุณหภูมิในการทำงาน ความเร็วในระบบ ความเสถียรทางความร้อน น้ำมันคอมเพรสเซอร์ น้ำมันหล่อลื่น ต้องมีความเสถียรทางความร้อนเพื่อให้ทนต่ออุณหภูมิการทำงานที่สูง เพื่อต้านทานการเกิดออกซิเดชัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดตะกอน สารเคลือบเงา และกรดที่สามารถทำลายส่วนประกอบของคอมเพรสเซอร์ได้ การหล่อลื่น น้ำมันควรมีคุณสมบัติในการหล่อลื่นที่ดีเพื่อลดแรงเสียดทานและการสึกหรอระหว่างพื้นผิวโลหะ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงาน และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์อีกด้วย คุณสมบัติป้องกันการสึกหรอ น้ำมันคอมฯ
เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน – ความรู้ทั่วไป ซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดี – เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ที่เรารู้จัก ต้องเลือกซื้อเลือกใช้งานอย่างไรให้คุ้มค่าและประหยัดพลังงานมากที่สุด เป็นคำถามที่เราพบบ่อยสำหรับคนที่กำลังจะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศสักตัว แอร์ยี่ห้อดัง ๆ มีชื่อเสียงมายาวนาน ประหยัดจริงไหม ยี่ห้อนี้ที่เราค้นหาในเน็ตประหยัดจริงรึป่าว เราจึงควรพิจารณาจากหลาย ๆ ด้านก่อนตัดสินใจ ขอแนะนำแนวทางในการเลือกซื้อแอร์ให้ตรงกับความต้องการ และ ขนาดการใช้งาน ให้คุ้มค่า ประหยัด รักโลกมากที่สุด ประเภทของแอร์บ้าน สำหรับการใช้งานโดยทั่วไป สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ สำหรับที่พักอาศัย ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศแบบติดผนักขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานตามบ้านเรือน คอนโด ออฟฟิศขนาดเล็ก หรือ ใช้ติดตั้งในห้องขนาดเล็ก ส่วนใหญ่เป็นแอร์ติดผนังทั้งสิ้น เพราะดูแลรักษาง่าย เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเครื่องขนาดใหญ่ สามารถแบ่งได้อีกหลายรูปแบบ เช่น แบบฝังฝ้า อยู่บนตัวเพดาน มีการปล่อยความเย็นออกมาจากเพดานทั้ง 4 ทิศ เหมาะสำหรับสำนักงาน ร้านค้า ออฟฟิศขนาดกลางขึ้นไป ขนาดของแอร์ที่เหมาะสม เลือก BTU ให้ถูกต้องกับขนาดของห้องที่เราต้องการใช้งาน ขนาดแอร์เป็นอีกหลักที่ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่เราจะต้องจ่ายไป
เปิดแอร์สุดแล้ว แอร์รถยนต์ก็ไม่เย็น เกิดจากสาเหตุอะไร ปัจจุบันคนใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางกันมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่คนใช้รถยนต์ ไม่อยากให้เกิดขึ้นสักเท่าไรนัก คือ ปัญหา แอร์รถยนต์ไม่เย็น เพราะด้วยอากาศของเมืองไทยนั้นไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อนระอุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไหนจะต้องกับมลภาวะทางอากาศ เป็นพิษอีก หากต้องขับรถยนต์เปิดกระจกด้วยอีก จึงเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดไม่น้อย สำหรับผู้ที่ต้องมีความจำเป็นใช้รถยนต์อยู่ตลอดเวลา 1.กรองแอร์รถยนต์อุดตัน คือ การอุดตันของระบบระบายอากาศ ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่กรองอากาศแอร์ที่สกปรกจากฝุ่น หรืออาจจะมีคราบสกปรก คราบเชื้อรา ทำให้ช่องแอร์อุดตัน ส่งผลให้ระบบปรับอากาศในรถยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะมีลักษณะของกลิ่นอับที่รู้สึกได้ชัดเจนขึ้นด้วย 2.แอร์รถยนต์รั่ว และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบ เช็คน้ำยาแอร์และจุดเชื่อมต่อของระบบปรับอากาศ เพราะหากเกิดการรั่วไหลของท่อน้ำยาแอร์ที่จุดใดจุดหนึ่ง ความเย็นจะค่อยๆ ลดลงตามปริมาณของน้ำยาแอร์ที่รั่วออกจากระบบ จนในที่สุดช่องแอร์ภายในรถยนต์ก็จะมีเพียงแต่ลมออกมาเท่านั้น วิธีการตรวจเช็ค อาจทำได้โดยใช้น้ำหรือน้ำสบู่ทาลงบริเวณท่อต่างๆ หากเกิดฟองอากาศแสดงว่ามีการรั่วในตรงจุดนั้นเป็นได้ 3.ระบบไฟไม่ทำงาน อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รีเลย์เสียหายทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ไปจนถึงไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในรถที่มีอายุการใช้งานที่นานมาแล้ว และยิ่งถ้าอุณหภูมิภายนอกมีแนวโน้มสูงเกิน 45 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะให้สายไฟเกิดความร้อนจนลัดวงจรได้ 4.คอมเพรสเซอร์แอร์แอร์มีปัญหา คอมเพรสเซอร์มีหน้าที่สำคัญที่ทำให้อากาศภายในรถยนต์เกิดความเย็น ซึ่งถ้าหากตัวคอมเพรสเซอร์มีปัญหาเกิดการขัดข้องหรือมีการทำงานที่ผิดปกติก็อาจทำให้แอร์ในรถยนต์ไม่เย็นได้ ส่วนอาการของคอมเพรศเซอร์เสียนั้น มีหลายสาเหตุ เช่น สายพาน ลูกสูบ หรือคอมมีอายุการใช้งานมายาวนานแล้ว เป็นต้น 5.พัดลมแอร์เสีย