Tag Archives: R134a

น้ำยาแอร์ R134a มีบทบาทในอุตสาหกรรมยานยนต์มากน้อยเพียงใด

น้ำยาแอร์ R134a มีบทบาทในอุตสาหกรรมยานยนต์มากน้อยเพียงใด รถยนต์เป็นอีกปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถเก๋ง หรือรถมอเตอร์ไซด์ ก็ล้วนแต่เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง แต่บางท่านอาจมองข้ามไปถึงความสำคัญของ เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ เราจะมาทำความรู้จัก การเลือกซื้อ น้ำยาแอร์ R134a ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำความเย็นให้รถยนต์เราเย็นสบาย อากาศปลอดโปร่งภายในรถยนต์ของเรา น้ำยาแอร์ R134a เคยมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ด้วยความกังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ทำให้มีการพัฒนาสารทำความเย็นชนิดใหม่ ที่มีค่า GWP (Global Warming Potential) ต่ำกว่ามาแทนที่ และในปัจจุบัน R1234yf กำลังเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในรถยนต์รุ่นใหม่ ความนิยมของการใช้น้ำยาแอร์ R134a มีดังนี้ เป็นมิตรต่อชั้นโอโซน R134a ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทน สารทำความเย็นชนิดเก่าที่ทำลายชั้นโอโซน ทำเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำความเย็น R134a มีประสิทธิภาพในการดูดซับความร้อนและทำความเย็นได้ดี ทำให้ระบบปรับอากาศในรถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้กับวัสดุ R134a สามารถใช้งานร่วมกับวัสดุที่ใช้ในการผลิตระบบปรับอากาศในรถยนต์ได้เป็นอย่างดี แม้ว่า R134a จะเป็นสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อชั้นโอโซน แต่ก็ยังมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน เนื่องจากมีค่า GWP (Global Warming Potential) หรือศักยภาพในการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนค่อนข้างสูง

แรงดันน้ำยาแอร์ มีความสำคัญกับตู้เย็นและตู้แช่อย่างไร

แรงดันน้ำยาแอร์ มีความสำคัญกับตู้เย็นและตู้แช่อย่างไร ตู้เย็นและตู้แช่เป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์เป็นอย่างมากที่ต้องใช้งาน  ซึ่งการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวก ตู้เย็นตู้แช่นี้ ทั่วๆไป ซึ่งมีอยู่หลายประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน เพื่อที่จะรักษาอุณหภูมิความเย็นให้คงที่ เหมาะสมกับสินค้าที่จัดเก็บนั้นๆด้วย  ซึ่งในส่วนประกอบหลักที่สำคัญก็คือ น้ำยาแอร์ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ระบบต่างๆทำงานได้ สำหรับตู้เย็นและตู้แช่ ที่พบเห็นหลักๆก็จะมีใช้น้ำยาแอร์ R404a , R507 , R134a , R600 ซึ่งแต่ละชนิดก็มีค่าแรงดันที่แตกต่างกันไป โดยหลักการใช้งานก็จะขึ้นอยู่กับคอมเพรสเซอร์ ว่าใช้กับน้ำยาแอร์ชนิดไหน วัดจากค่าแรงดันและปริมาณการใช้ พื้นที่จัดเก็บ รวมถึงอุณหภูมิที่ต้องการใช้อีกด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ซึ่งน้ำยาแอร์แต่ละชนิดสามารถแยกคุณสมบัติแรงดันได้ดังนี้ R404A เป็นสารผสม (R125+R143+R134a) มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 170-180 Psi   จุดเดือดอยู่ที่   -46.6 C◦ ใช้ในอุณหภูมิติดลบ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ ประหยัดพลังงาน   ถ้าน้ำยาแอร์ในระบบขาดต้องปล่อยทิ้งแล้วเติมใหม่ทั้งหมด โดยสามารถใช้เกจวัดแรงดันในการเช็คระบบให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม R507 เป็นสารผสม (R125+R143) มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ สารทำความเย็น HFC

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ สารทำความเย็น HFC ปัจจุบันนอกจากระบบปรับอากาศที่ใช้กันแพร่หลายทั้ง เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ หรือเครื่องปรับอากาศในบ้านเรือนแล้ว นอกจากนี้ระบบทำความเย็นยังเข้ามามีส่วนสำคัญ ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆเช่น อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง หรือ การสร้างห้องเย็น เพื่อเก็บรักษาคุณภาพอาหาร ให้มีความสด เก็บไว้ให้ได้นาน บทความนี้จะมาช่วยให้เราทราบถึง สารทำความเย็นอีกประเภทหนึ่ง นั้นคือ สารทำความเย็น HFC (Hydrofluorocarbon) สารทำความเย็น HFC (Hydrofluorocarbon) เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจน ฟลูออรีนและคาร์บอน ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบทำความเย็นและปรับอากาศ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสม เช่นมีจุดเดือดต่ำ ความดันไอสูง และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ประเภทของสารทำความเย็น HFC (Hydrofluorocarbon) มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป ที่นิยมใช้กันปัจจุบัน ได้แก่ R134a เป็นสารทำความเย็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน มีจุดเดือดต่ำ ความดันไอสูง และไม่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศ แต่มีศักยภาพในการทำให้โลกร้อน R410A เป็นสารทำความเย็นที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทน R22 มีจุดเดือดต่ำ ความดันไอสูง และไม่เป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศ และมีศักยภาพในการทำให้โลกร้อนเช่นกัน R32 เป็นสารทำความเย็นที่มีศักยภาพในการทำให้โลกร้อนต่ำที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับสารทำความเย็นชนิดอื่นๆ แต่มีจุดเดือดสูงและความดันไอต่ำ จึงต้องอาศัยคอมเพรสเซอร์ที่มีกำลังสูงขึ้น

สารทำความเย็นในรถยนต์ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร

สารทำความเย็นในรถยนต์ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ปัจจุบันมีความพยายามที่จะทำให้รถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ได้มีการพัฒนาการใหม่ๆ เกิดขึ้นในหลายสาขาที่จะทำความเข้าใจต่อผลลัพธ์ของการออกแบบระบบ ซึ่งในส่วนระบบปรับอากาศของรถยนต์ ได้นำไปสู่การวิเคราะห์รายละเอียดของระบบปรับอากาศและความพยายามที่จะคิดค้นการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด อุตสาหกรรมรถยนต์ได้เลือกใช้สารทำความเย็นที่มีชื่อเรียกว่า ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน R134a มาใช้แทนสารทำความเย็นอื่นๆ  เนื่องจาก R134a ไม่มีผลกระทบต่อการทำให้เกิดการรั่วของชั้นโอโซนและในขณะเดียวกันก็เป็นสารที่ปลอดภัย ไม่เป็นพิษ และไม่ติดไฟ รวมทั้งยังให้ประสิทธิภาพของวัฏจักรทำความเย็นในระดับที่ยอมรับได้ เมื่อไม่นานมา มีความสนใจปัญหาอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น และแหล่งปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ (Co 2 ) เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องหันมาทบทวนการเลือกใช้สารทำความเย็นตัวใหม่ ถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มของก๊าซที่ถูกควบคุม ผลกระทบที่มีต่อโลกของ R 134a นั้นเกิดจากการรั่วไหลของสารทำความเย็น จะมีผลต่อการทำให้โลกร้อนขึ้น (GWP) เท่ากับ 1,300 เมื่อเกิดการรั่วไหล ซึ่งคิดเทียบเท่ากับ 1,300 เท่าของก๊าซ Co 2 ที่รั่วไหลในปริมาณเท่ากัน กรณีดังกล่าว เมื่อนำมารวมกับแนวคิดเกี่ยวกับของไหลทำงานที่ได้จากธรรมชาติ ( Natural Working fluid) ส่งผลให้เกิดความสนใจในการประเมินการใช้ก๊าซ Co 2 มาเป็นสารทำความเย็น จากการศึกษาผลที่เกิดขึ้นจากการเลือกใช้สารทำความเย็นต้องกระทำในภาพรวมตลอดจนถึงการปฎิสัมพันธ์กับในส่วนต่างๆ

น้ำยาแอร์ตัวใหม่ที่จะมาแทน R134a

น้ำยาแอร์ตัวใหม่ที่จะมาแทน R134a             ในปัจจุบันก๊าซเรือนกระจกที่ปกคลุมโลกจะกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้บนโลก ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นเร็วมาก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมดุลของธรรมชาติ และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงมากมายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ รถยนต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนได้ และน้ำยาที่ใช้กับรถยนต์ก็คือ น้ำยาแอร์ R134a ซึ่งมีผลในระยะยาวที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน สำหรับรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นที่ผลิตและจำหน่ายในยุโรป จะเห็นได้ว่าการเลิกใช้น้ำยาแอร์ R134a ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นสารทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศจะกลายเป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีการพัฒนา น้ำยาแอร์ R1234yf ขึ้นมาเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม             น้ำยาแอร์ R1234yf เริ่มใช้งานกับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศแถบยุโรป น้ำยาตัวนี้ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนักในท้องตลาด ซึ่ง ราคาน้ำยาตัวนี้ค่อนค้างสูง ในไทยเริ่มมีการนำเข้ามาจำหน่าย และใช้งานอยู่บ้างแต่ไม่มาก สารชนิดนี้เป็นสารประเภท HFOs (Hydrofluoroolefin) ข้อดีคือมีจุดเดือน -29 องศาเซลเซียส สามารถใช้ทดแทน น้ำยาแอร์ R134a (HFCs) ได้ทันที (Suddenly) เมื่อน้ำยาแอร์ R134a มีจุดเดือด -26.1 องศาเซลเซียส ส่วน น้ำยาแอร์ R12 (CFCs) มีจุดเดือดที่

น้ำยาแอร์ที่ใช้กับรถห้องเย็นมีอะไรบ้าง

น้ำยาแอร์ที่ใช้กับรถห้องเย็นมีอะไรบ้าง ปัจจุบันนี้รถยนต์ตามท้องถนนในประเทศมีอยู่มากมายหลายชนิดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน จะมีทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์โดยสาร รถยนต์บรรทุก รถพ่วง รถตู้ รวมทั้งรถกระบะที่ใช้ในการขนส่งสินค้า เป็นต้น ในที่นี้มาดูกันว่าในส่วนขอรถห้องเย็นที่มีการใช้งานนั้น ใช้น้ำยาแอร์ชนิดไหนบ้างและใช้ในปริมาณเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกรถกะบะ รถตู้ รถบรรทุกต่างๆที่มีการต่อเติมดัดแปลงเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการจัดเก็บสินค้าที่ต้องอยู่ในอุณหภูมิความเย็นคงที่ เพื่อจัดส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วตามเป้าหมายที่กำหนด รถห้องเย็นนั้นส่วนมากแล้วจะเป็นรถที่เอาไว้จัดส่งสินค้าซึ่งจะต้องรักษาอุณหภูมิความเย็นให้คงที่ เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าให้มีความสด และสภาพคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงในระหว่างการขนส่ง อย่างเช่นสินค้าจำพวก อาหารแช่แข็ง อาหารแช่เย็น ผัก ผลไม้ อาหารซีฟู้ด เครื่องดื่ม นมสด ยารักษาโรค เป็นต้น และน้ำยาแอร์ที่ใช้ส่วนมากหลักๆคือ น้ำยา R134a  , R404A และR507 ซึ่งแยกได้ดังนี้ R134a เป็นสารทำความเย็นเชิงเดี่ยว มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 100-110 Psi จุดเดือดอยู่ที่ -26 C◦   ใช้ในรถห้องเย็น รวมถึงห้องโดยสารด้านหน้าด้วย สามารถทำอุณหภูมิติดลบ แต่จะไม่เย็นจัด ในปัจจุบันมีการใช้ R404AและR507แทน   ถ้าเกิดการรั่วหรือน้ำยาแอร์ในระบบขาดสามารถเติมเพิ่มได้เลย