5 เคล็ดลับในการใช้ตู้เย็นในช่วงหน้าร้อนแบบประหยัด

5 เคล็ดลับในการใช้ตู้เย็นในช่วงหน้าร้อนแบบประหยัด

ในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย “ตู้เย็น” ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในห้องครัวเลยทีเดียว เรียกได้ว่าต้องมีแทบทุกบ้าน ยิ่งในช่วงฤดูร้อนนี้ นอกจากเครื่องปรับอากาศแล้ว เป็นเรื่องยากมากที่ในการใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่มีตู้เย็น

ช่วงเดือนเมษายน ของประเทศไทยจะเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างร้อนมาก ตู้เย็นของคุณจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ของในตู้เย็นเย็นอยู่เสมอ แม้จะมีสภาวะภายนอกจะร้อนขนาดไหนก็ตาม แต่ก็แลกมาด้วยการใช้พลังงานมากขึ้น การบำรุงรักษา หรือการใช้งานที่ผิดวิธี อาจทำให้ค่าไฟของเราสูงขึ้น

ในส่วนต่อไปนี้จะมาพูดถึง 5 เคล็ดลับ ที่สามารถช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในช่วงหน้าร้อนจัดแบบนี้

  1. ตั้งอุณหภูมิที่ถูกต้อง
    ตั้งอุณหภูมิที่ถูกต้อง

    การตั้งอุณภูมิทั้งตู้เย็นและช่องแช่แข็งจำเป็นต้องตั้งค่าอุณหภูมิที่ถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น และการใช้พลังงานที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณจัดเก็บอาหารได้อย่างปลอดภัย เพราะการเก็บอาหารแช่เย็นด้วยอุณหภูมิตู้เย็น หรือตู้แช่ที่เหมาะสม จะช่วยให้อาหารมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและคงความสด คุณภาพ และคุณค่าทางโภชนาการ

  2. จัดเรียงของในตู้เย็นให้เหมาะสม
    จัดเรียงของในตู้เย็นให้เหมาะสม

    ส่วนมากมักเข้าใจกันผิดว่า ตู้เย็น หากเราใส่อาหารหรือของเข้าไปเป็นจำนวนมาก จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น แต่ความจริงแล้วตรงกันข้ามเลย ตู้เย็นที่จัดการการจัดเรียงให้เหมาะสม จะใช้พลังงานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับตู้เย็นที่ว่างเปล่า หรือแช่ของน้อยเกินไป แต่หากต้องการให้ตู้เย็นมีของแช่ไว้ และไม่ต้องการซื้ออาหารหรือของมาใส่เพิ่ม ให้เติมน้ำเปล่าลงในเหยือกน้ำเพื่อแช่แทนได้

  3. ตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองน้ำ (Water Filter)

    หากมีเครื่องกรองน้ำในตู้เย็น ควรหมั่นตรวจเช็คและเปลี่ยนไส้กรองเป็นประจำ ตู้เย็นบางรุ่นมีตัวแจ้งเปลี่ยนไส้กรองโดยอัตโนมัติ หากตู้เย็นไม่มีคุณสมบัตินี้ โดยหลักการทั่วไปคือการเปลี่ยนไส้กรองน้ำปีละสองครั้ง (อาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่นของตู้เย็นด้วย ) ไส้กรองน้ำที่สะอาดจะช่วยให้จ่ายน้ำที่สะอาดและยังช่วยให้เครื่องทำน้ำแข็งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

  4. ตรวจสอบคอยส์ (Coils) ทำความเย็น
    ตรวจสอบคอยส์ (Coils) ทำความเย็น

    คอยล์คอนเดนเซอร์ หรือคอยล์ร้อน ที่อยู่ด้านหลังของตู้เย็นมีความสำคัญต่อกระบวนการทำความเย็น และเมื่อเวลาผ่านไปคอยล์ก็จะเริ่มสะสมสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละออง ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการทำงานของตู้เย็นอีกด้วย  โดยเฉพาะบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ขนของสัตว์เลี้ยงอาจจะปลิวเข้าไปติดบริเวณคอยล์ได้ง่าย แต่ในปัจจุบันตู้เย็นรุ่นใหม่ที่มีระบบคอนเดนเซอร์ที่ทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง แต่หากเป็นตู้เย็นรุ่นเก่าก็จำเป็นต้องทำความสะอาด ด้วยอุปกรณ์ดูดฝุ่นหรือลูกกลิ้งกำจัดฝุ่น

  5. ตรวจสอบซีลของตู้เย็น (Refrigerator seal)

    ในส่วนของประตูตู้เย็นทุกบานจะมีซีลหรือปะเก็นที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ประตูของตู้เย็นสนิท  หากมีช่องว่างหรือซีลที่เสื่อมสภาพก็จะทำให้ความสามารถในการทำความเย็นของตู้เย็นลดน้อยลง  สามารถตรวจสอบสภาพซีลตู้เย็นด้วยการสอดธนบัตรใดก็ได้บริเวณซีล และทำการปิดประตูตู้เย็น หากธนบัตรหลุดหรือดึงออกได้ง่าย แสดงให้เห็นว่าซีลหลวมเกินไป จะต้องทำการเปลี่ยนขอบยางประตูของตู้เย็น แต่อย่าลืมทำการตรวจสอบ วัตถุดิบ หรือสิ่งของที่แช่ในตู้เย็น ที่อาจจะกีดขวางอยู่และอาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติ

นอกจากนี้จากที่ได้แนะนำในด้านบน พฤติกรรมการเปิดตู้เย็นของคนในบ้าน ก็มีผลต่อประสิทธิภาพของตู้เย็นอีกด้วย

เช่นกัน เนื่องจากทุกครั้งที่มีการเปิดประตู้ตู้เย็น ลมเย็นจะหยุดทำงานชั่วขณะ หรือเบาลง อุณภูมิภายในตู้เย็นจะสูงขึ้น การเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานจนเกินไป ก็จะทำให้ตู้เย็นทำงานนานขึ้นเพื่อให้ได้อุณภูมิที่เหมาะสม หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสารทำความเย็น สามารถโทรสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่น้ำยาแอร์ดอทคอมศูนย์รวมน้ำยาตู้เย็นทุกชนิดที่  Line@namyaair หรือ โทร.   094-341-3124

 

 

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *