เลือกซื้อ น้ำยาแอร์รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ประเทศไทยมีลักษณะเป็นภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ทำให้อากาศร้อนแทบทั้งปี ประชากรส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศกันเป็นส่วนใหญ่ อาทิ เครื่องปรับอากาศบ้านเรือน อาคารพานิชย์ ห้างร้าน หรือ เครื่องปรับอากาศรถยนต์ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความสุขสบายในการดำรงชีวิตประจำวัน เครื่องปรับอากาศรถยนต์ มีความสำคัญสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์เป็นประจำ สิ่งสำคัญที่ทำให้ แอร์รถยนต์เกิดความเย็น ก็คือ น้ำยาแอร์รถยนต์ ในการเลือกซื้อ น้ำยาแอร์รถยนต์ ก็เช่นกัน เหมือนกับการเลือกซื้อสารเคมี ชนิดอื่นๆ ต้องเลือกซื้อที่มี คุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ มีจุดเดือด องค์ประกอบทางเคมี และแรงดันควบแน่น ที่เหมาะสม ท้ายที่สุดก็รวมถึงราคา ที่สามารถครอบครองได้ ที่คุ้มค่า เราจะเลือกซื้อ น้ำยาแอร์รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณา คุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ แล้วเราจะสามารถตัดสินใจได้ด้วยต้นเองได้ แหล่งผลิตจากโรงงานต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับในมาตราฐานโลก การนำเข้า ต้องผ่านระบบการตรวจสอบ คัดกรอง และตรงตามมาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง น้ำยาแอร์รถยนต์ ที่เลือกใช้ จะต้องเป็นน้ำยาแอร์ ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยสถาบันที่ได้มาตราฐานสากล การบรรจุภัณฑ์ ได้มาตราฐาน ตรงตาม คุณสมบัติ
Author Archives: nobel23
การเลือกใช้สารทำความเย็นให้เหมาะกับการใช้งาน ในปัจจุบันอุตสาหกรรมทำความเย็นได้เติมโตขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ปรากฎอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสารทำความเย็นที่เป็นจุดเริ่มต้นในการทำความเย็นสู่สินค้า ในการเลือกสารทำความเย็นเบื้องต้น จะมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาอยู่มาก ทั้งต้นทุนการผลิต เรื่องเทคนิค รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม วันนี้จะมากล่าวถึงหัวข้อหลักในการเลือกซื้อสารทำความเย็นให้เหมาะสม ดังนี้ เลือกสารทำความเย็นจำอุณภูมิ หลักเกณณ์ในการเลือกสารทำความเย็นตามอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งการเลือกอุณภูมิและแรงดัน รวมถึงการระบายความร้อน ซึ่งมีผลต่อสินค้าและผลผลผลิตของผู้ประกอบการ แต่ละภาคส่วนของการผลิตที่ใช้อุณภูมิที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของห้องเย็น การเลือกสารทำความเย็นตามอุณภูมิแบ่งได้ตามประเภทสารทำความเย็นดังนี้ – สารทำความเย็นสำหรับระบบ High Temperature หรืออุณหภูมิสูง ที่สามารถใช้ได้กับตู้เย็น เครื่องปรับอากาศรถยนต์ Chiller เป็นต้น – สารทำความเย็นสำหรับระบบ Medium Temperature หรืออุณหภูมิปานกลาง สามารถใช้ได้กับเครื่องปรับอากาศในที่อยู่อาศัยห้องเย็น (Cold Room) ที่ให้อุณหภูมิประมาณ -15 ถึง -20 องศาเซลเซียส รวมถึงรถที่ใช้ในการขนส่งสินค้าแบบรักษาอุณหภูมิ ห้อง Cleanroom และห้องที่ต้องการควบคุมความดันและอุณหภูมิ – สารทำความเย็นสำหรับระบบ Low Temperature หรืออุณหภูมิต่ำ สามารถใช้ได้กับ ตู้แช่แข็งอาหารตามห้างสรรพสินค้า ห้องเย็นหรือ Cold room ที่มีอุณหภูมิต่ำ
สารทำความเย็นในรถยนต์ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ปัจจุบันมีความพยายามที่จะทำให้รถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ได้มีการพัฒนาการใหม่ๆ เกิดขึ้นในหลายสาขาที่จะทำความเข้าใจต่อผลลัพธ์ของการออกแบบระบบ ซึ่งในส่วนระบบปรับอากาศของรถยนต์ ได้นำไปสู่การวิเคราะห์รายละเอียดของระบบปรับอากาศและความพยายามที่จะคิดค้นการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด อุตสาหกรรมรถยนต์ได้เลือกใช้สารทำความเย็นที่มีชื่อเรียกว่า ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน R134a มาใช้แทนสารทำความเย็นอื่นๆ เนื่องจาก R134a ไม่มีผลกระทบต่อการทำให้เกิดการรั่วของชั้นโอโซนและในขณะเดียวกันก็เป็นสารที่ปลอดภัย ไม่เป็นพิษ และไม่ติดไฟ รวมทั้งยังให้ประสิทธิภาพของวัฏจักรทำความเย็นในระดับที่ยอมรับได้ เมื่อไม่นานมา มีความสนใจปัญหาอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น และแหล่งปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ (Co 2 ) เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องหันมาทบทวนการเลือกใช้สารทำความเย็นตัวใหม่ ถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มของก๊าซที่ถูกควบคุม ผลกระทบที่มีต่อโลกของ R 134a นั้นเกิดจากการรั่วไหลของสารทำความเย็น จะมีผลต่อการทำให้โลกร้อนขึ้น (GWP) เท่ากับ 1,300 เมื่อเกิดการรั่วไหล ซึ่งคิดเทียบเท่ากับ 1,300 เท่าของก๊าซ Co 2 ที่รั่วไหลในปริมาณเท่ากัน กรณีดังกล่าว เมื่อนำมารวมกับแนวคิดเกี่ยวกับของไหลทำงานที่ได้จากธรรมชาติ ( Natural Working fluid) ส่งผลให้เกิดความสนใจในการประเมินการใช้ก๊าซ Co 2 มาเป็นสารทำความเย็น จากการศึกษาผลที่เกิดขึ้นจากการเลือกใช้สารทำความเย็นต้องกระทำในภาพรวมตลอดจนถึงการปฎิสัมพันธ์กับในส่วนต่างๆ
เลือกเครื่องปรับอากาศแบบไหนดี 2023 แอร์ Inverter แอร์ที่มีอินเวอร์เตอร์จะถูกออกแบบมาเพื่อลดความเร็วของมอเตอร์ แต่มันจะทำงานอย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้ความเย็นที่สม่ำเสมอแก่เรา หลาย ๆ คนอาจคิดว่าการที่เครื่องทำงานตลอดเวลาอาจฟังดูเหมือนสิ้นเปลืองไฟหรือเปล่า? แต่จริง ๆ แอร์แบบ Inverter จะทำงานแบบหนัก-เบาสลับกันไป กล่าวคือมันสามารถเปลี่ยนระดับความเร็วของมอเตอร์ได้ โดยช่วงที่เบานั้นจะเป็นการติดเครื่องรอไว้ ทำให้แอร์ประเภทนี้ไม่ต้องดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ทุกครั้งเหมือนแอร์ทั่วไป แอร์ทั่วไป non-Inverter ในขณะที่แอร์แบบไม่มีอินเวอร์เตอร์นั้นตัวมอเตอร์จะเร่งทำความเย็นอย่างเต็มที่เต็มกำลัง จากนั้นมันก็จะดับเครื่องลงเมื่ออุณหภูมิในห้องเท่ากับอุณหภูมิที่เราตั้งค่าเอาไว้ และเมื่ออุณหภูมิภายในห้องต่ำกว่าที่กำหนด ตัวมอเตอร์ก็จะกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง กล่าวคือแอร์ชนิดนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนระดับความเร็วของมอเตอร์ได้เลย ทำได้เพียงทำงานกับหยุดทำงานเท่านั้น ซึ่งการทำงานแบบติด ๆ ดับ ๆ เช่นนี้จะกินไฟมากกว่า ทั้งยังส่งผลต่ออายุการใช้งานให้สั้นลงอีกด้วย เลือกแอร์กี่ BTU ดี? การเลือกขนาด BTU นั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของห้องที่เราต้องการติดตั้ง ไม่จำเป็นว่าแอร์ที่ดีจะต้องมี BTU สูง ๆ เสมอไป เพราะ BTU ไม่ใช้ตัววัดคุณภาพของแอร์ หากคุณเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง มันก็จะช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้มากกว่า ตัวอย่าง เช่น 9000BTU
สารทำความเย็นสำหรับตู้แช่ในอนาคตช่วยลดค่า GWP สารทำความเย็น HFO ย่อมาจาก Hydrofluoroolefin ซึ่งเป็นสารทำความเย็นสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่ได้รับการออกแบบให้มีศักยภาพในการทำให้โลกร้อน (GWP) ต่ำกว่าสารทำความเย็นประเภทไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFC) ผลิตขึ้นโดยการรวมอะตอมของไฮโดรเจน ฟลูออรีน และคาร์บอนเข้าด้วยกันในการจัดเรียงเฉพาะเพื่อสร้างโมเลกุลที่มีคุณสมบัติทางอุณหพลศาสตร์ที่พึงประสงค์และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ โดยปกติสารทำความเย็น HFO จะมีค่า GWP น้อยกว่า 10% ของสารทำความเย็น HFC แบบดั้งเดิม ทำให้สารทำความเย็น HFO เป็นตัวเลือกสำหรับอนาคตที่น่าสนใจสำหรับระบบทำความเย็นและระบบปรับอากาศที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สารทำความเย็น R449A สารทำความเย็นR449A สามารถใช้ทดแทน R-404A และ R-507 ในระบบทำความเย็นใหม่และติดตั้งเพิ่มเติม เป็นสารทำความเย็นผสม HFC+HFO จัดประเภทความปลอดภัยในระดับ A1 ไม่ติดไฟ มีค่า GWP = 1397 ซึ่งต่ำกว่าสารทำความเย็นอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป เช่น R404A ที่มี GWP = 3922สามารถใช้งานได้หลากหลาย เนื่องจากให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นที่คล้ายคลึงกัน ในขณะที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า ซึ่งที่ผ่านมา สารทำความเย็นอย่าง R404A
น้ำยาแอร์ที่ใช้กับระบบรถยนต์ ในประเทศไทยส่วนใหญ่น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น นอกจากใช้ในอาคารบ้านเรือน อุตสาหกรรมต่างๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งความเย็นที่ยังต้องใช้ควบคู่กับชีวิตประจำวันของเราด้วย นั่นก็คือยานพาหนะหรือรถยนต์ที่เราใช้กัน ในอดีตน้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็น R12 จะเป็นสารทำความเย็นสำหรับรถยนต์ ตู้เย็น ตู้แช่ และระบบชิลเลอร์รุ่นเก่า และในปี 1996 สารทำความเย็น R12 ได้ถูกยกเลิกเนื่องจากมีค่า ODP และ ค่า GWP ที่สูง จึงทำให้สารทำความเย็น R134a ได้เข้ามาแทนที่และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบทำความเย็นของรถยนต์ สารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์ที่เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันมีดังนี้ น้ำยาแอร์ R134a เป็นสารทำความเย็นที่มาทดแทน R12 ซึ่งไม่มีสารทำลายชั้นบรรยากาศโลก และไม่มีส่วนผสมของน้ำยาชนิดอื่นเลย จะมีค่าของน้ำยาแอร์ R134a (100%) และในปัจจุบันรถยนต์จะใช้น้ำยาแอร์ R134a เป็นส่วนมาก น้ำยาแอร์ R134a ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ แต่ไม่ควรให้สารหรือแก๊ส โดนหรือสัมผัสกับร่างกายหรือผิวหนังเพราะอาจจะทำให้เกิดการไหม้ได้ น้ำยาแอร์ R134a หาซื้อได้ง่าย มีการใช้งากันอย่างแพร่หลาย ราคาจะต่างกันไปในแต่ละร้านที่ขาย จะขึ้นอยุ่กับคุณภาพและมาตรฐานของยี่ห้อนั้นๆด้วย น้ำยาแอร์ R1234yf
สารทำความเย็น หรือน้ำยาแอร์ R600a กับคุณสมบัติการติดไฟ ? ในโลกปัจจุบันสารทำความเย็นที่มีคุณสมบัติการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้เริ่มพัฒนาเข้ามาแทนที่สารทำความเย็น หรือน้ำยาแอร์ในยุคเก่าอย่างแพร่หลายมากขึ้น สารทำความเย็น R600a ก็เป็นหนึ่งสารทำความเย็นที่เป็นสารทดแทน R134a เช่นกัน เนื่องจากค่า GWP=3 ที่ต่ำกว่า R134a อย่างเห็นได้ชัด เพราะสารทำความเย็น R134a มีค่า GWP=1,430 ปัจจุบันสารทำความเย็น R134a ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบปรับอากาศรถยนต์ รวมถึงตู้เย็นและเครื่องทำความเย็นเชิงพาณิชย์ และสารทำความเย็น R600a ที่เข้ามาทดแทนส่วนใหญ่ยังมีข้อจำกัดในการใช้เฉพาะ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และอุปกรณ์ทำความเย็นอื่นที่มีข้อกำหนด R600a คืออะไร ? R600a เป็นสารทำความเย็นไอโซบิวเทน ประเภท HC จากที่เราเคยได้ทำความรู้จักกับสารทำความเย็นธรรมชาติ R290 ที่เป็นสารทำความเย็นประเภทติดไฟอีกชนิดไปแล้ว สาร R600a ก็เป็นอีกหนึ่งสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของโพนเพนเช่นกันค่ะ เพียงแต่มีความสามารถในการติดไฟต่ำกว่าสารทำความเย็นตามธรรมชาติแท้ๆ และทั้งสารทำความเย็นทั้งคู่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในเครื่องใช้ที่เป็นไปตามข้อกำหนด เพื่อให้ครอบคลุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สารทำความเย็นที่มีคุณสมบัติไวไฟ R600a เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเครื่องเย็นหรือตู้เย็นหลายยี่ห้อ เริ่มหันมาใช้สาร R600a
ดูแลแอร์รถยนต์อย่างไรให้ยืดอายุการใช้งานได้นาน ปัจจุบันรถยนต์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น เช้ามาบางท่านต้องไปทำงาน ต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ส่วนการเดินทางกลับก็ใช้รถยนต์เช่นกัน เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้บรรยากาศในการเดินทางปลอดโปร่ง เย็นสบาย ดังนั้น เครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เป็น สิ่งสำคัญอย่างมากที่ เราที่เป็นเจ้าของรถยนต์ จะต้องคอยใส่ใจในการดูแล บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศรถยนต์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มความเย็นในรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราควรรู้วิธีดูแลแอร์รถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน ดังจะกล่างต่อไปนี้ การเติมน้ำยาแอร์ ควรเติมน้ำยาแอร์ให้ถูกชนิดและอยู่ปริมาณที่ถูกต้อง ซึ่งแนะนำการเติมน้ำยาแอร์ ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการที่จะมีการตรวจสอบ เกี่ยวกับระดับการเติมน้ำยาแอร์ที่ถูกต้อง อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเติมที่ถูกวิธีที่ จะส่งผลให้รถยนต์ของคุณลดความเสี่ยง ในการเสียหายจากการเติมน้ำยาที่ไม่ถูกต้อง ต้องเรียนรู้การเปิดแอร์ที่ถูกวิธี เป็ฯอีกวิธีที่สามารถช่วยให้คุณบำรุงรักษาแอร์รถยนต์ให้ใช้งานอย่าง มีประสิทธิภาพ คือการเปิดแอร์ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของแอร์จากการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี โดยแนะนำว่าคุณควรเริ่มเปิดแอร์ก่อนสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเครื่องและส่วนของคอมเพรสเซอร์ นอกจาก การเปิดแอร์ในช่วงเริ่มต้น ก็ไม่ควรเพิ่มอุณหภูมิที่รวดเร็วมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้แอร์ทำงานหนักและเกิดความเสียหายได้ หมั่นล้างแอร์เป็นประจำ เป็นอีกวิธีที่หนึ่ง ที่สำคัญอย่างมาก เพื่อให้เครื่องปรับอากาศสะอาดและ สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ปราศจากฝุ่นเกาะติด สิ่งสกปรกตกค้างต่างๆ ที่นอกจากจะทำให้แอร์ทำงานหนักและเสื่อมสภาพไวแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหารถแอร์ไม่เย็น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย ดังนั้น คุณควรหมั่นล้างแอร์รถยนต์เป็นประจำ โดยแนะนำให้ล้างทุกๆ ระยะเวลา 2 ปี หรือ
ระบบทำความเย็นของอุตสาหกรรม ระบบการทำความเย็น นอกจากการทำความเย็นแบบพื้นฐาน ยังมีอีกมากมายหลายรูปแบบ ตามการใช้งาน และความต้องการประสิทธิภาพในการทำความเย็น ที่ถูกพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบให้ตรงตามความต้องการมากขึ้น ตามยุคสมัยและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามากขึ้น ระบบทำความเย็นและระบบแช่แข็งในอุตสาหกรรม ที่เราเห็นกันมากที่สุดคืออุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเราสามารถจำแนกการทำความเย็นตามลักษณะของการใช้งาน ได้ดังนี้ ห้องเย็น (Cold Room) เป็นที่นิยมใช้มากในอุตสาหกรรมอาหาร ห้องเย็นถูกควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับสินค้า เพื่อช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรีย ก่อนจะถูกผลิต จัดจำหน่ายตามลูกโซ่ความเย็น ห้องแช่แข็ง (Frozen Room) ใช้สำหรับลดอุณหภูมิของสินค้าในระยะเวลาอันสั้นที่สุดตามหลักการถนอมรักษาอาหาร หรือใช้กับวัตถุดิบที่ต้องการความเย็นสูง การลดอุณหภูมิของสินค้าหรือวัตถุดิบ มีอยู่หลายวิธีขึ้นอยู่กับสารทำความเย็นที่ใช้ในการทำความเย็น สำหรับหลักการทำความเย็นโดยใช้เครื่องระเหย หรือคอยล์เย็น (Evaporator) สามารถแบ่งได้ดังนี้ แบบขยายโดยตรง (Direct Expansion) เป็นแบบที่ใช้กันทั่วไป เหมาะสำหรับห้องเย็นที่มีค่าการทำความเย็นไม่สูงมากนัก โดยสารทำความเย็นจะไหลจากฝั่ง คอยล์ร้อน (Condenser) เข้าสู่ถังพักสารทำความเย็นและไหลผ่านวาล์วลดความดัน (Expansion Valve) เข้าสู่คอยล์เย็นหรือ Evaporator โดยตรง แบบท่วมคอยล์ (Flooded Coil) เป็นระบบสารทำความเย็นที่ส่งจากคอยล์ร้อน (Condenser) เข้าสู่ถังพักสารทำความเย็นที่มีความดันสูง และไหลผ่านวาล์วลดความดันไปสู่ถังเก็บสารทำความเย็นความดันต่ำก่อน ก่อนจะไหลเข้าคอยล์เย็น โดยอาศัยการที่ของเหลวไหลไปแทนที่ก๊าซ จุดแตกต่างสำหรับระบบนี้
น้ำยาแอร์ตัวใหม่ที่จะมาแทน R134a ในปัจจุบันก๊าซเรือนกระจกที่ปกคลุมโลกจะกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้บนโลก ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นเร็วมาก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมดุลของธรรมชาติ และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงมากมายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ รถยนต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนได้ และน้ำยาที่ใช้กับรถยนต์ก็คือ น้ำยาแอร์ R134a ซึ่งมีผลในระยะยาวที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน สำหรับรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นที่ผลิตและจำหน่ายในยุโรป จะเห็นได้ว่าการเลิกใช้น้ำยาแอร์ R134a ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นสารทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศจะกลายเป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีการพัฒนา น้ำยาแอร์ R1234yf ขึ้นมาเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม น้ำยาแอร์ R1234yf เริ่มใช้งานกับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศแถบยุโรป น้ำยาตัวนี้ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากนักในท้องตลาด ซึ่ง ราคาน้ำยาตัวนี้ค่อนค้างสูง ในไทยเริ่มมีการนำเข้ามาจำหน่าย และใช้งานอยู่บ้างแต่ไม่มาก สารชนิดนี้เป็นสารประเภท HFOs (Hydrofluoroolefin) ข้อดีคือมีจุดเดือน -29 องศาเซลเซียส สามารถใช้ทดแทน น้ำยาแอร์ R134a (HFCs) ได้ทันที (Suddenly) เมื่อน้ำยาแอร์ R134a มีจุดเดือด -26.1 องศาเซลเซียส ส่วน น้ำยาแอร์ R12 (CFCs) มีจุดเดือดที่