Category Archives: วิธีดูเเลรถยนต์

ทริคการดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าร้อนแบบง่ายๆ

ทริคการดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าร้อนแบบง่ายๆ ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นมีอากาศร้อนแทบตลอดทั้งปี ยิ่งถ้าจอดรถยนต์ทิ้งไว้กลางแดดแล้ว ผู้ขับขี่จะพบว่าภายในตัวรถยนต์จะร้อนระอุ รถยนต์ที่ถูกจอดไว้กลางแดดเป็นเวลานาน ก็คงไม่ดีต่อรถยนต์ของคุณแน่ๆ วันนี้เราจึงมารวมทริคการดูแลรถยนต์แบบง่ายๆ เพื่อป้องกันและดูแลรถจากอากาศร้อนแบบมาฝากกัน เรื่องของหม้อน้ำ   ควรตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำว่าพร่องหรือน้อยไปหรือไม่ หากใช่ให้หมั่นเติมน้ำสะอาด และถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุกๆ 4-6 เดือน ถ้าเป็นใหม่ ควรตรวจสอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ควรตรวจสอบ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ยางรถยนต์และแรงดันลมยาง การเติมลมยางให้เหมาะสม ควรเติมให้มากขึ้นสัก 2-3 ปอนด์ เพื่อช่วยป้องกันการเปิดตัวของแก้มยาง ซึ่งหากปล่อยให้ยางอ่อน ควารร้อนอาจจะทำให้แก้มยาเกิดการบิดตัวมากและร้อนผิดปกติ จนส่งผลให้แรงดันภายในของยางรถสูงขึ้นจนระเบิดได้ การเติมลมยางที่เหมาะสมยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในหน้าร้อนได้ด้วย การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง   การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่คู่มือกำหนดไว้นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยในหน้าร้อน เพราะหากปล่อยให้น้ำมันเครื่องแห้งในหน้าร้อนนั้น อาจจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้และยังทำให้รถยนต์ของคุณกินน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย หมั่นขยับส่วนประกอบที่เป็นยาง เนื่องจากความร้อนของอากาศหรือแดด อาจทำให้วัสดุที่เป็นยางละลายจนเหนียวและด้าน  เมื่อถึงเวลาใช้งานจึงฉีกขาดได้ ทางที่ดีอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งหมั่นเปิด-ปิด ให้ขอบยางได้ขยับบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่ปัดน้ำฝน หน้าต่าง ประตูหลัง กระโปรงท้ายรถยนต์ หรือหลังคาซันรูฟ หลีกเลี่ยงการขับเร่งเครื่องและเบรกกะทันหัน เนื่องจากจะทำให้เกิดอันตรายแล้ว การเร่งเครื่องและเบรกรถแบบกระทันหันเมื่อถูกบวกกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุ อาจทำให้รถยนต์ของคุณกินน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ข้อควรรู้ เกี่ยวกับขั้นตอนล้างตู้แอร์รถยนต์

ข้อควรรู้ เกี่ยวกับขั้นตอนล้างตู้แอร์รถยนต์ สังคมไทยในปัจจุบัน มีการใช้รถยนต์ในการเดินทางบ่อยๆ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปธุระต่างๆ ในรถยนต์ อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศภายในรถยนต์ของเราให้กลายเป็นสวรรค์ หรือนรกได้ภายในพริบตา นั้นคือ เครื่องปรับอากาศในรถยนต์นั้นเอง ดังนั้นเราไม่ควรมองข้ามความสำคัญเล็กๆน้อยๆ ที่จะต้องดูแลเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ของเรา บทความนี้จะมานำเสนอ ข้อควรรู้ เกี่ยวกับขั้นตอนการล้างตู้แอร์รถยนต์ ดังต่อไปนี้ การล้างตู้แอร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก คือ 1.การล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ จะเหมาะสำหรับแอร์ที่ใช้งานไม่หนัก ฝุ่นละอองไม่หนามาก ขั้นตอนดังนี้             – ถอดแผ่นกรองอากาศ นำไปล้างน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง             – ฉีดน้ำยาทำความสะอาดคอยล์เย็น โดยไม่ต้องถอดตู้             – รอให้น้ำยาทำความสะอาดคอยล์เย็นไหลออก             – ฉีดน้ำล้างคอยล์เย็น  เช็ดคราบน้ำให้แห้ง แล้วประกอบแผ่นกรองอากาศ เข้าปกติ 2.การล้างแอร์แบบถอดตู้ จะเหมาะสำหรับแอร์ที่ใช้งานหนัก ฝุ่นละอองหนามาก ต้องการทำความสะอาดอย่างละเอียด ขั้นตอนดังนี้             -ตัดไฟแอร์ ปิดวาล์วน้ำยา แล้วถอดคอยล์เย็น ออกจากตู้แอร์            

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้รถยนต์ในหน้าร้อน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้รถยนต์ในหน้าร้อน ประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้ภูมิอากาศของประเทศมีลักษณะ เป็นแบบร้อนชื้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู จะมีฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน หลายท่านคงไม่ค่อยชอบกับหน้าร้อนเท่าไหร่ เมื่อเราต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางบ่อยๆในหน้าร้อน เราอาจจะเจอปัญหาได้ บทความนี้จะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ของเราในหน้าร้อน ดังต่อไปนี้ หลีกเลี่ยงการขับรถยนต์บนผิวถนนที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ควรหยุดพักรถยนต์ทุกระยะทาง 200-300 กิโลเมตร เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด ไม่จอดรถยนต์บนพื้นถนนที่มีน้ำขังเป็นเวลานาน แล้วนำรถยนต์ไปวิ่งบนผิวถนนที่ร้อนจัดทันที เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จะทำให้ยางรถยนต์บวมหรือยางระเบิดได้ อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ ติดฟิล์มกรองแสง เพื่อลดความร้อนของแสงแดดให้กับรถยนต์ โดยพิจารณาจากคุณสมบัติต่างๆของฟิล์มนั้นๆ หมั่นตรวจเช็คสภาพที่ปัดน้ำฝน เพราะความร้อนจะทำให้ยางปัดน้ำฝน แข็งและกรอบ ทำให้คุณภาพของยางปัดน้ำฝนน้อยลง ไม่เปิดกระจกรถยนต์ ขณะเปิดแอร์ จะช่วยถนอมคอมเพรสเซอร์ไม่ให้ทำงานหนักตลอดเวลาได้ ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ หมั่นเติมน้ำสะอาด และถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุก 4-6 เดือน หากเป็นรถยนต์ใหม่ ควรตรวจสอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ควรตรวจสอบ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ปิดประตูรถยนต์ทุกบานให้สนิท เพราะไฟในรถยนต์

การดูแลรถยนต์ในช่วงฤดูหนาว

การดูแลรถยนต์ในช่วงฤดูหนาว ปัญหารถยนต์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทุกฤดูกาล เพราะฉะนั้นต้องหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ประเทศไทยเราก็เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว แต่ก็ยังเชื่อได้ว่า หลายๆคนตอนนี้ เริ่มได้สัมผัสกับอากาศที่เย็น ทั้งในช่วงเวลากลางคืนและในช่วงของเช้ามืด จนทำให้รู้สึกอยากออกไปสัมผัสกับอากาศที่เย็น เช่น ขึ้นดอย สัทผัสกับไอหมอก ไอหนาว วันนี้จะมาแนะนำวิธีการดูแลรักษารถยนต์ เพื่อเตรียมพร้อมไว้ใช้งานในช่วงฤดูหนาวและป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องความเสียหายและอุบัติเหตุต่างๆ เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมทาง                 สิ่งสำคัญในการดูแลรถยนต์ในช่างหน้าหนาวมีดังนี้ ระบบไล่ฝ้า เพราะความชื้นของอากาศภายในและภายนอกแตกต่างกัน จึงเกิดฝ้าที่กระจกได้ การขับรถในช่วงฤดูหนาว อุณภูมิที่ไม่สมดุลระหว่างดานในและด้านนอกรถ ทำให้ไอน้ำจับต้วเป็นละอองและเกิดฝ้าเกาะกระจกรถ ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง กรณีเกิดฝ้าที่กระจกมองข้างและกระจกรถยนต์ด้านหน้าในรถ ให้ทำการเพิ่มความเย็นเครื่องปรับอากาศ โดยเลื่อนสวิตซ์ระบบปรับอากาศไปที่ลัญลักษณ์ไล่ฝ้าที่กระจกหน้า หรือลดกระจกลงเล็กน้อย เพื่อปรับอุณภูมิในและนอกห้องโดยสารรถให้เกิดความสมดุลกัน จะช่วยให้ละอองฝ้าจางหายไปได้ ในกรณีที่เกิดฝ้าที่กระจกรถด้านนอก ให้เปิดใช้อุปกรณ์ที่ปัดน้ำฝน และฉีดน้ำเช็ดกระจกควบคู่กันไป จะสามารถช่วยไล่ละอองฝ้าและขจัดคราบสกปรกบนกระจก ในขณะที่เกิดฝ้าที่กระจกรถยนต์ด้านหลังรถ ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้าเพื่อให้ขดลวดความร้อนบริเวณกระจกด้านหลังของรถยนต์ทำงาน หากละอองฝ้าเริ่มจางหายไป ให้ปิดปุ่มไล่ฝ้าเพราะความร้อนจะทำให้กระจกรถและฟิมส์กรองแสงเสื่อมสภาพการใช้งานเร็วขึ้น สัญญาณไฟ โดยที่นี้จะเหมารวมทั้งไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟตัดหมอก เนื่องจากการขับขี่บนท้องถนนจะเต็มไปด้วยผู้ร่วมเส้นทางมากมาย การให้สัญญาณต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกครั้ง ยิ่งช่วงในฤดูหนาวที่อาจจะมีหมอกที่ลงจัดในบางช่วง ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดน้อยลงอย่างมาก ซึ่งถ้าไฟต่างๆ ที่กล่าวมาเกิดการชำรุดใช้งานไม่ได้ นั่นอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดคิด ดั้งนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจสอบและเปลี่ยนหลอดไฟใฟ้สว่างและใช้งานได้ปกติอยู่เสมอ ระบบเบรก ก่อนขับรถทุกครั้งการตรวจเช็คผ้าเบรกกับน้ำมันเบรกคือสิ่งที่สำคัญมากอย่างมาก เพราะไม่ว่าคุณจะขับไปใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม

ดูแลแอร์รถยนต์อย่างไรให้ยืดอายุการใช้งานได้นาน

ดูแลแอร์รถยนต์อย่างไรให้ยืดอายุการใช้งานได้นาน             ปัจจุบันรถยนต์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น เช้ามาบางท่านต้องไปทำงาน ต้องใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ส่วนการเดินทางกลับก็ใช้รถยนต์เช่นกัน เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้บรรยากาศในการเดินทางปลอดโปร่ง เย็นสบาย ดังนั้น เครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์เป็น สิ่งสำคัญอย่างมากที่ เราที่เป็นเจ้าของรถยนต์ จะต้องคอยใส่ใจในการดูแล บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศรถยนต์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มความเย็นในรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราควรรู้วิธีดูแลแอร์รถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งาน ดังจะกล่างต่อไปนี้ การเติมน้ำยาแอร์ ควรเติมน้ำยาแอร์ให้ถูกชนิดและอยู่ปริมาณที่ถูกต้อง ซึ่งแนะนำการเติมน้ำยาแอร์ ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการที่จะมีการตรวจสอบ เกี่ยวกับระดับการเติมน้ำยาแอร์ที่ถูกต้อง อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเติมที่ถูกวิธีที่ จะส่งผลให้รถยนต์ของคุณลดความเสี่ยง ในการเสียหายจากการเติมน้ำยาที่ไม่ถูกต้อง ต้องเรียนรู้การเปิดแอร์ที่ถูกวิธี เป็ฯอีกวิธีที่สามารถช่วยให้คุณบำรุงรักษาแอร์รถยนต์ให้ใช้งานอย่าง มีประสิทธิภาพ คือการเปิดแอร์ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของแอร์จากการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี โดยแนะนำว่าคุณควรเริ่มเปิดแอร์ก่อนสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเครื่องและส่วนของคอมเพรสเซอร์ นอกจาก การเปิดแอร์ในช่วงเริ่มต้น ก็ไม่ควรเพิ่มอุณหภูมิที่รวดเร็วมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้แอร์ทำงานหนักและเกิดความเสียหายได้ หมั่นล้างแอร์เป็นประจำ เป็นอีกวิธีที่หนึ่ง ที่สำคัญอย่างมาก เพื่อให้เครื่องปรับอากาศสะอาดและ สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ปราศจากฝุ่นเกาะติด สิ่งสกปรกตกค้างต่างๆ ที่นอกจากจะทำให้แอร์ทำงานหนักและเสื่อมสภาพไวแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหารถแอร์ไม่เย็น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย ดังนั้น คุณควรหมั่นล้างแอร์รถยนต์เป็นประจำ โดยแนะนำให้ล้างทุกๆ ระยะเวลา 2 ปี หรือ

ดูแลรถยนต์อย่างไรในหน้าฝน

ดูแลรถยนต์อย่างไรในหน้าฝน ประเทศไทยแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู จะมีฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน คือระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี ประเทศไทยมีเมฆมาก จะพบกับร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทย จึงทำให้มีฝนตกชุก เมื่อเข้าสู่หน้าฝน หลายท่านคงไม่ค่อยถูกกับหน้าฝนเท่าไหร่ เพราะพอฝนตกมาทีไร รถก็จะติด แถมรถยนต์ของเราก็สกปรกอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ถ้ามีน้ำรอการระบายบนท้องถนน ก็จะทำให้รถยนต์ของเราเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นในหน้าฝนนี้ เราจึงควรจะเพิ่มการดูแลรถยนต์ของเราเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้ ตรวจเช็คดูซีลยางขอบประตู ซีลยางขอบประตูรถนั้นทำหน้าที่ปิดช่องว่างระหว่างรอยขอบ ประตู สามารถกันลม รวมถึงการรั่วซึมของน้ำฝนที่จะเข้ามาในรถด้วย สำหรับตัวซีลยางขอบประตูนั้นควรตรวจเช็คทุกๆ 4เดือน ตรวจดูว่าตัวซีลยางมีรูปทรงที่บิดเบี้ยวอยู่หรือไม่ เมื่อใช้มือบีบจะต้องไม่นิ่มไป หรือแข็งไป ตรวจสอบรอยแตก หากมีสภาพที่ไม่เหมาะสม ควรรีบทำการเปลี่ยนทันที เพราะหากเกิดการรั่วซึมจะทำให้ภายในห้องโดยสารเกิดความเสียหาย จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่บานปลายได้ รถยนต์ถ้าลุยฝนให้รีบล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไปก่อน แล้วค่อยเช็ครถยนต์ด้วยผ้าเช็ดรถ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดคราบรอยหยดน้ำเกาะฝั่งแน่นขึ้น และที่สำคัญ ไม่ควรเช็ดรถทันทีหลังผ่านการตากฝนมา เพราะน้ำฝนมักปนเปื้อนฝุ่น อาจจะทำให้เกิดคราบสกปรกติดรถหรือเกิดรอยข่วนแมวได้ และจะทำให้เกิดผลเสียต่อสีรถยนต์ด้วย เช็คใบปัดน้ำฝน เป็นสิ่งที่ใช้บ่อยสุดในช่วงหน้าฝน จึงควรตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน ว่ามีสภาพที่ดี อยู่หรือไม่ หากระหว่างใช้งานแล้วมีเสียงดัง แสดงว่าตัวยางมีการแข็งตัว หรือเมื่อใช้แล้วมีรอยเส้นตามแนวปัด

แอร์รถยนต์ไม่เย็น เกิดจากปัจจัยหลักอะไรบ้าง

แอร์รถยนต์ไม่เย็น เกิดจากปัจจัยหลักอะไรบ้าง เข้าสู่หน้าร้อนทุกปี อากาศเมืองไทยส่วนใหญ่เป็นเมืองร้อน เพียงแค่ยืนกลางแดดไม่กี่นาทีก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ จึงเป็นตัวช่วยที่ขาดไม่ได้ในการขับขี่รถยนต์เพื่อให้เกิดความเย็นสบายขณะขับขี่ ถ้าหากเราต้องเจอปัญหา ที่ส่งผลให้ แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม อาจมีปัจจัยหลัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาแอร์หมด ระบบระบายความร้อนไม่ดี สายท่อแอร์รั่ว ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม หรืออุปกรณ์ข้อต่อต่างๆ เกิดการเสื่อมสภาพ และอื่นๆ อีกหลายปัจจัย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับปัจจัยหลักที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็นดังต่อไปนี้         1.น้ำยาแอร์หมดหรือขาด เป็นปัญหาหลักที่ทำให้แอร์รถยต์ไม่เย็นได้ เพราะจะทำให้แอร์เย็นน้อยหรือไม่เย็นเลย จะมีแต่ลมร้อนๆ ออกมาจากช่องแอร์ วิธีแก้ไขให้ลองสตาร์ตเครื่องยนต์ แล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน แล้วส่องดูในช่องตรวจสอบน้ำยาที่อยู่ระหว่างแผงระบายความร้อนทางด้านหน้ารถ หากเห็นเป็นฟองอากาศเล็กๆ สีขาว แสดงว่าน้ำยาแอร์กำลังจะหมดให้รีบเติมน้ำยาทันที         2.ระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์ร้อนไม่ดี เป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อย ลองเช็คโดยการเปิดฝากระโปรงรถ ติดเครื่องยนต์ และเปิดแอร์ไว้ เมื่อคอมเพรสเซอร์รถยนต์ทำงาน ลองสังเกตดู พัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนว่าหมุนช้าหรือมีเสียงดังไหม หากเกิดปัญหา จะต้องเปลี่ยนพัดลมใหม่ หรือถ้าแผงคอยล์ร้อนสกปรกก็ต้องล้างทำความสะอาด เพื่อให้ระบบการระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ทำงานได้ดีขึ้น ระบบแอร์รถยนต์ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย         3.สายท่อแอร์รั่ว หรือข้อต่อต่างๆ เกิดรอยรั่วซึม เป็นปัจจัยหลักเช่นเดียวกัน ที่ส่งผลให้แอร์รถยนต์ไม่เย็นได้

รถยนต์จอดกลางแดดเป็นประจำ ควรดูแลรักษาอย่างไรให้ดูใหม่เสมอ

รถยนต์จอดกลางแดดเป็นประจำ ควรดูแลรักษาอย่างไรให้ดูใหม่เสมอ             ทราบกันดีว่าแสงแดงในเมืองไทยร้อนแรงมาก ยิ่งให้ช่วงฤดูร้อน เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดในประเทศ เพียงเรายืนกลางแสงแดดเวลากลางวัน ไม่กี่นาทีก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว รถยนต์ก็เช่นเดียวกัน หากได้รับความร้อนจากแสงแดดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะส่งผลเสียให้ตัวรถยนต์เกิดความเสียหายได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ เช่น สีตัวถังไม่เงางาม เนื่องจากแสงแดดจะทำให้ชั้นแลกเกอร์บางลง สุดท้ายแล้ว หากไม่ทีการดูแลรักษา ก็อาจจะทำให้เนื้อสีซีดจางในที่สุด และอีกปัญหาที่พบบ่อย คือ ชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกและยางเสื่อมสภาพ กรอบแตกหักได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นยางขอบประตู ยางรีดน้ำกระจกหน้ารถยนต์ ไฟหน้าเหลืองซีด ไฟท้ายกรอบแตก รวมถึงอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ อาจมีการหลุดลอกหรือแตกหักได้ 1.ใช้น้ำยาเคลือบบำรุงหนัง, บำรุงยาง จะช่วยยืดอายุของอุปกรณ์ต่างๆ ได้ โดยสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ เช่น ยางขอบกระจกหน้าต่าง ยางขอบประตู เป็นต้น 2.หมั่นเคลือบสีรถยนต์เป็นประจำ นอกเหนือจากการล้างทำความสะอาดรถยนต์แล้ว อีกเรื่องควรเพิ่มเติมคือ เพิ่มขั้นตอนการเคลือบสีรถเข้าไปด้วย จะช่วยลดโอกาสที่ทำให้สีรถยนต์ซีดจางได้ ส่วนจะเคลือบแบบวิธีไหน ก็ขึ้นกับงบประมาณของแต่ละท่าน ซึ่งก็ถือเป็นการบำรุงรักษาสีรถยนต์ไปในตัว 3.เลือกใช้ผ้าคลุมรถหรือม่านบังแดด การใช้ผ้าคลุมรถจะช่วยกรองรังสียูวี ไม่ให้สัมผัสกับตัวรถยนต์โดยตรง จะช่วยชะลอการซีดจางของสีรถยนต์ได้ ซึ่งจะเป็นการยืดอายุชิ้นส่วนพลาสติกและยางได้อีกด้วย และแถมยังช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารไปในตัว อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ผ้าคลุมรถควรเลือกชนิดที่มีคุณภาพสูง ผิวเคลือบสะท้อนแสงไม่หลุดล่อนง่าย มิฉะนั้นจะกลายเป็นทำลายสีรถยนต์แทน