เทคนิคการใช้เครื่องปรับอากาศแบบช่วยประหยัดไฟ แม้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วแต่อากาศที่ร้อนอบอ้าวทั้งในช่วงเวลากลางวันและก่อนฝนตก ทำให้หลายคนยังต้องเปิดแอร์เพื่อช่วยให้อากาศภายในบ้านยังเย็นสบาย วันนี้เราจึงนำเทคนิคการใช้แอร์ที่ช่วยประหยัดไฟและเงินในกระเป๋ามาฝากกันดังนี้ค่ะ เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดไฟ โดยสังเกตจากฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการประหยัดไฟยิ่งกว่าเดิมเมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีฉลากเบอร์ 5 ยิ่งดาวมากยิ่งประหยัดไฟมาก พร้อมทั้งดูแลอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับขนาดห้อง โดยพิจารณาจากค่า BTU/hr (British Thermal Unit per hour) ซึ่งเป็นหน่วยสากลที่ใช้วัดขนาดความเย็นของแอร์ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประหยัดพลังงาน คนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่เพื่อให้ห้องเย็นเร็วขึ้นซึ่งเป็นการตัดสินใจไม่ถูกต้อง เพราะการใช้แอร์ที่มี BTU สูงเกินความจำเป็นกับขนาดห้องจะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศลดน้อยลง และทำให้ภายในห้องมีความชื้นสูงส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สบายตัว รวมถึงมีราคาแพงเกินความจำเป็น แต่หากเลือกเครื่องปรับอากาศที่มี BTU ต่ำเกินไป การทำความเย็นจะช้า ไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ รวมถึงคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักจนเกินไป ทำให้เครื่องปรับอากาศเสียเร็ว สิ้นเปลืองพลังงาน และค่าไฟแพงขึ้นอีกด้วย เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์เครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์ในทิศตะวันตก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะโดนแสงแดดส่องในช่วงบ่ายทำให้ความร้อนสูง แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น เช่นเดียวกับการติดตั้งคอมเพรสเซอร์ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน ดาดฟ้า มุมอับที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท หรือได้รับแสงแดดโดยตรง เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นอุปกรณ์ระบายความร้อนจึงควรอยู่ในที่ร่ม และยกสูงเหนือพื้น เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน
Author Archives: nobel23
เปิดเครื่องปรับอากาศพร้อมพัดลม ช่วยประหยัดไฟได้จริงไหม ในช่วงที่อากาศร้อนจัด เราก็ต้องการความเย็นในบ้านที่มากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ทำความเย็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ เครื่องปรับอากาศหรือแอร์นั่นเอง แต่หากเราจะเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานไม่เพียงแต่จะมีค่าไฟที่เพิ่มมากขึ้น แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย หลายๆ คนคงทราบกันแล้วว่า การเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ พร้อมกับพัดลม สองเครื่องพร้อมกันจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้จริงไหม และควรต้องใช้ควบคู่กันอย่างไร วิธีการเปิดเครื่องปรับอากาศพร้อมพัดลมควบคู่กันมีดังนี้ ตั้งอุณภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้นกว่าปกติ แนะนำให้เปิดที่ 25 องศา เปิดพัดลมให้เปิดแบบจ่อไปในจุดที่เรานั่ง หรือนอนโดยตรง แต่ไม่ควรเปิดพัดลมให้แรงจนเกินไป ปัจจัยที่ทำให้ห้องเย็นเมื่อเราเปิดเครื่องปรับอากาศพร้อมพัดลม คือ อุณภูมิ ความชื้นสมพันธ์ และความเร็วของลม หากต้องการให้ห้องมีความเย็นประมาณ 23 องศา ให้ตั้งอุณภูมิเครื่องปรับอากาศประมาณ 25 องศา แล้วเปิดพัดลมจ่อในต่ำแหน่งที่เราอยู่ หากต้องการอุณภูมิที่เพิ่มขึ้นมากว่า 23 องศา ให้ทำการตั้งอุณภูมิบวกเพิ่มไปอีกประมาณ 2 องศา แล้วเปิดพัดลมจ่อตรงจุดที่เราอยู่เช่นเดิม ประโยชน์ของการใช้เครืองปรับอากาศและพัดลมร่วมกัน 1. ช่วยประหยังพลังงานและค่าใช้จ่าย จากการเปิดเครื่องปรับอากาศพร้อมกับพัดลมนั้น จะช่วยลดการใช้พลังงานและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 40% เนื่องจากระยะเวลาในการใช้เครื่องปรับอากาศจะลดลง ช่วยให้ห้องได้รับความเย็นได้ในระดังที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้น ในขณะที่เราเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อที่จะปรับอุณภูมิของห้อง
เครื่องมือช่างที่ขาดไม่ได้ “ เกจ์วัดแรงดันน้ำยาแอร์รถยนต์ ” ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน ทำให้ภูมิอากาศของประเทศมี ลักษณะเป็นแบบร้อนชื้น ทำให้ร้อนอบอ้าวเกือบตลอดปี อย่างไรก็ตามอุณหภูมิจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่และฤดูกาล ถ้าในช่วงฤดูร้อน การใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ จึงเป็นอย่างมาก ในการใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางของคนทั่วไป ในเครื่องปรับอากาศ จึงต้องอาศัย สารทำความเย็น หรือ ที่เรียกว่า น้ำยาแอร์ มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบปรับอากาศทำให้เรารู้สึกเย็น ผ่อนคลายความร้อนลงได้ หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า น้ำยาแอร์เป็นอย่างดี ที่ทำให้เกิดความเย็น แต่หากจะมองให้ลึกไปกว่านั้น คนส่วนใหญ่ จะไม่ทราบเครื่องมือวัดแรงดันน้ำยาแอร์รถยนต์ ส่วนใหญ่ช่างแอร์ทั่วไปมักจะทราบกันดี เพราะเป็นเครื่องมือเฉพาะที่ช่างแอร์ทุกท่าน ขาดไม่ได้สำหรับงานระบบปรับอากาศ เพราะจะช่วยในการตรวจสอบความดันของสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) ในระบบทำความเย็น บทความนี้ถึงแม้ท่านไม่ใช่ช่างแอร์ แต่สามารถเพิ่มเติมความรู้ให้ท่านได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เกจ์วัดแรงดัน หรือ แมนิโฟล์เกจ์ (Manifold Gauge) เป็นเครื่องมือที่ช่างเทคนิคใช้ในการตรวจเช็คและเติมน้ำยาแอร์ให้กับระบบปรับอากาศในรถยนต์ เครื่องมือชิ้นนี้จะช่วยให้ช่างสามารถวัดค่าความดันของน้ำยาแอร์ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงปริมาณน้ำยาแอร์ที่อยู่ในระบบ และสภาพของระบบปรับอากาศ ส่วนประกอบหลักๆ ของ เกจ์วัดแรงดัน มีดังนี้ ท่อดูด ใช้สำหรับต่อเข้ากับระบบแอร์เพื่อดูดน้ำยาแอร์ออก ท่อเติม ใช้สำหรับต่อเข้ากับระบบแอร์เพื่อเติมน้ำยาแอร์เข้าไป
ทำความรู้จักกับระบบการทำงานของห้องเย็น ระบบทำความเย็นมีบทบาทและมีความสำคัญต่อสินค้าหลากหลายประเภท ซึ่งในปัจจุบันเราใช้ระบบทำความเย็นใน การผลิตอาหาร เช่น การผลิตนม ไอศกรีม การเก็บรักษาอาหาร หรือถนอมอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ให้มีอายุในการเก็บรักษานานขึ้นเพื่อการบริโภคหรือเพื่อการจำหน่าย การผลิตในงานอุตสาหกรรม งานอุตสาหกรรมหลายประเภทที่ต้องอาศัยการทำความเย็นช่วยในกระบวนการผลิต การทำความเย็นเพื่อการขนส่ง เช่น ห้องเย็นที่ใช้ในเรือประมง เรือเดินทะเล หรือรถห้องเย็นที่ใช้ขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง และการปรับอากาศ เช่นที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศทั่วไป หรืองานปรับอากาศที่ใช้ในกระบวนการผลิตต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม บริษัทสร้างห้องเย็นจะต้องให้ความสำคัญกับระบบทำความเย็นของห้องเย็นเป็นอย่างมาก เพื่อให้สามารถใช้งานห้องเย็นในการจัดเก็บและคงความสดของวัตถุดิบต่าง ๆ เอาไว้ได้เป็นเวลานาน ให้สินค้ามีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ จึงต้องทำการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการทำงานห้องเย็นอยู่เสมอ ซึ่งห้องเย็นจะมีหลักการทำงานหลัก ๆ 2 ระบบดังนี้ 1.ระบบการทำความเย็นโดยใช้สารทำความเย็นระเหย เรียกว่า Expendable Refrigerant Cooling System เป็นระบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มบริษัทรับสร้างห้องเย็น ซึ่งสามารถใช้งานได้ดีกับรถบรรทุกที่ใช้ขนส่งอาหารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอยู่เสมอ ซึ่งมีหลักการเพียงแค่ปล่อยให้สารทำความเย็นเหลวระเหยเป็นไออยู่ภายในบริเวณที่ต้องการทำความเย็น โดยบริเวณเหล่านี้จำเป็นต้องมีฉนวนกันความร้อนห่อหุ้มอยู่โดยรอบ ซึ่งขณะที่สารเปลี่ยนสถานะจะต้องใช้ความร้อนแฝงเพื่อทำให้อุณหภูมิลดลง จึงต้องใช้ตัวกลางคือ “ไนโตรเจนเหลว” ที่อยู่ภายในถัง ปล่อยให้ไหลผ่านไปยังวาล์วควบคุมไปยังท่อและหัวฉีด สามารถฉีดไนโตรเจนเหลวให้เป็นฝอยบริเวณที่ต้องการทำความเย็นได้ทันที 2.ระบบการทำความเย็นโดยการอัดไอ อาศัยหลักการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ
เครื่องปรับอากาศที่บ้านต้องเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหนกัน ? สารทำความเย็นที่มีอยู่ในระบบทำความเย็นโดยปกติแล้วจะไม่หมดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสารเหล่านี้จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่องภายในระบบของเครื่องปรับอากาศ ยกเว้นกรณีที่มีการรั่วไหล หรือ พบปัญหาในระบบหมุนเวียน ซึ่งอันที่จริงแล้วสารทำความเย็นจะมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี หรือเครื่องปรับอากาศบางเครื่องไม่จำเป็นต้องเติมสารทำความเย็นเลย สังเกตสัญญาณของการรั่วไหลของสารทำความเย็นได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1.มีลมร้อนมาจากช่องระบายอากาศ 2.ค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ 3.เกิดน้ำแข็งบนสายสารทำความเย็น 4.คอยล์เย็นจนเกิดการแช่แข็ง 5.มีเสียงฟู่ หรือ เป็นฟองออกมาจากท่อสารทำความเย็น แนะนำวิธีการเติมน้ำยาแอร์ การเติมน้ำยาแอร์นั้นทำด้วยตัวเองได้ยาก เนื่องจากจำเป็นต้องมีการตรวจสอบสภาพเครื่องปรับอากาศให้มั่นใจว่าน้ำยาแอร์หมดจากสาเหตุใด มีรอยรั่วในจุดไหนหรือเปล่า รวมไปถึงอุปกรณ์และน้ำยาแอร์ที่ต้องใช้นั้น อาจหาได้ยากสำหรับคนทั่วไป 1. ตรวจสอบว่ามีการเติมน้ำยาแอร์ชนิดไหน น้ำยาแอร์บางประเภทไม่สามารถเติมผสมร่วมกันได้ โดยเฉพาะน้ำยาแอร์ R410A ที่มีส่วนผสม 2 ชนิด จึงต้องทำการถ่ายน้ำยาชนิดเดิมออกให้หมดก่อนที่จะเติมน้ำยาแอร์ใหม่เข้าไป 2. ตรวจสอบระบบท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์เป็นของเหลวที่มีอายุการใช้งานยาวนานเพราะฉะนั้นหากเกิดสถานการณ์ที่น้ำยาแอร์หมด ควรที่จะต้องมีการตรวจสอบระบบการทำงาน และหารอยรั่วเพื่อทำการซ่อมก่อน โดยวิธีตรวจสอบที่ช่างนิยมใช้กันนั้นก็คือการใช้น้ำสบู่ลูบไปตามท่อ หากจุดไหนรั่วก็จะเกิดฟองสบู่ขึ้น 3. ดูดอากาศและความชื้นออกให้หมด
เปิดแอร์แล้ว ทำไมแอร์ไม่เย็นสักที อย่างที่ทราบกันดี อากาศในประเทศไทยเรา ค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก จึงทำให้เราต้องเปิดแอร์ทุกวันและทั้งวัน แต่บางทีหลังจากออกไปข้างนอกกลับมาซึ่งไปเจอกับอากาศที่ร้อน อยากพักผ่อน เปิดแอร์ให้เย็นสบาย แต่แอร์กลับไม่เย็นอย่างที่คิด สาเหตุหลักๆที่ทำให้แอร์ของเราไม่ย็น หรือ เย็นช้าเกิดจากอะไร ขนาดของแอร์และขนาดห้อง ก่อนที่เราจะทำการติดตั้งแอร์ เราต้องคำนวณขนาดของห้องกับขนาดของแอร์ก่อน เพื่อความเหมาะสม หากห้องต้องการติดแอร์ขนาด 18000 BTU เราอาจจะเลือกแอร์ตามขนาดที่ต้องการ แต่ไม่ได้คำนวณว่าห้องมีแดดส่อง และต้องเปิดประตูรับลมร้อนเข้าและออกตลอดเวลา ก็จะทำให้แอร์ที่เลือกเย็นช้าได้ เราจึงต้องเพิ่มขนาด BTU ของแอร์ การตั้งค่าอุณภูมิผิด บางครั้งอากาศข้างนอกอาจจะมีปรับเย็นลงบ้าง นั้นหมายถึงอุณภูมิของประเทศไทยจะอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าเย็นเลยทีเดียว แล้วเราอาจจะลืมไปว่าอากาศบ้านเราไม่เคยเย็นได้ขนาดนี้ จึงทำการปรับตั้งอุณภูมิประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส ซึ่งแบบนี้เครื่องจะไม่ทำงานแน่นอนเพราะอากาศข้างนอกมันปรับเย็นแล้ว ดังนั้นเราควรปรับตั้งอุณภูมิต่ำกว่าอากาศข้างนอกห้องประมาณ 22-23 องศาเซลเซียน เครื่องปรับอากาศก็จะทำงานอย่างเย็นฉ่ำอย่างแน่นอน ตั้งค่ารีโมทผิดประเภท แอร์รุ่นใหม่ๆมักจะมีฟังก์ชั่นเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้อาจจะเกิดการสับสนในการใช้รีโมท ทำให้เกิดการ กดผิด กดถูก และแอร์หลายๆรุ่นจะมีโหมด Econo ที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าแต่ไม่ได้ช่วยให้ห้องของเราเย็น ดังนั้นจะต้องปรับให้เป็นโหมด Cool เพื่อช่วยเร่งทำให้ห้องของเราเย็นสบายและทั่วถึง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์รถยนต์ที่ใช้ในปัจจุบัน ปัจจุบันมีความพยายามที่จะทำให้รถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ได้มีการพัฒนาการระบบใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในส่วนระบบปรับอากาศของรถยนต์ และนำไปสู่การวิเคราะห์รายละเอียดของระบบปรับอากาศ พยายามที่จะคิดค้นการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในระบบปรับอากาศของรถยนต์จะ ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากภายในห้องโดยสารและระบายออกสู่ภายนอกแล้วทำให้คนโดยสารเกิดความเย็น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อใช้โดยสารรถยนต์ เราจึงควรรู้จักเกี่ยวกับน้ำยาแอร์ที่รถยนต์เราใช้ในชีวิตประจำวันไว้บ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้รถยนต์ น้ำยาแอร์รถยนต์มีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน คือ น้ำยา R134a และ R410A -R134a เป็นสารทำความเย็นที่ใช้กันมานาน มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง แต่มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน (GWP) อยู่บ้าง -R410A เป็นสารทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูงกว่า R134a และมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน น้อยกว่า การเลือกใช้น้ำยาแอร์รถยนต์ ควรคำนึง รายละเอียดดังต่อไปนี้ ชนิดของแอร์รถยนต์ ซึ่งแอร์รถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะรองรับการใช้น้ำยาแอร์ที่แตกต่างกัน สภาพอากาศ ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน แนะนำให้ใช้น้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เช่น R410A เป็นต้น ในเรื่องของราคา น้ำยาแอร์รถยนต์แต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ หรือแหล่งที่มาของน้ำยาแอร์
สารทำความเย็นของระบบห้องเย็นและเครื่องทำความเย็น น้ำยาR404a ถือว่าเป็นสารทำความเย็นที่อยู่คู่กับอุตสาหกรรม ห้องเย็น และเครื่องทำความเย็น มามากกว่าสามทศวรรษ โดยเป็นสาร HFC ที่เป็นตัวแทนของ R22 และ R502 เนื่องจากคุณสมบัติของR404a ทำให้เป็นสารทำความเย็นที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมหลายอุณหภูมิ และมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม แต่ด้วยข้อกังวลของค่า GWP ที่สูงถึง 3,922 สารทำความเย็น HFC จะมีการลดการใช้และการผลิต และถูกทดแทนด้วยสารทำความเย็นประเภท HFO หรือสารทำความเย็นที่มี GWP ต่ำกว่า ซึ่งได้ถูกเริ่มใช้งานในประเทศไทยกันแล้ว หากคุณอยู่ในธุรกิจที่ต้องใช้ระบบทำความเย็น และมีข้อกังวลเกี่ยวกับสารทำความเย็นที่ใช้อยู่ วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบระหว่างสารทำความเย็นR404a และR448aพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทำความรู้จักR448aเป็นสารทำความเย็นซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ HFO Blends คือส่วนผสมซีโอโทรปิกที่ประกอบด้วย HFO 2 ตัว (R1234ze 7% และ R1234yf 20%) และสารทำความเย็น HFC 3 ตัว (R134a 21%, R125 26% และ R32 26%)
สารทำความเย็นสำหรับตู้แช่ ห้องเย็น น้ำยา R404a ถือว่าเป็นสารทำความเย็นที่อยู่คู่กับอุตสาหกรรม ห้องเย็น และเครื่องทำความเย็น มามากกว่าสามทศวรรษ โดยเป็นสาร HFC ที่เป็นตัวแทนของ R22 และ R502 เนื่องจากคุณสมบัติของ R404a ทำให้เป็นสารทำความเย็นที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมหลายอุณหภูมิ และมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม แต่ด้วยข้อกังวลของค่า GWP ที่สูงถึง 3,922 สารทำความเย็น HFC จะมีการลดการใช้และการผลิต และถูกทดแทนด้วยสารทำความเย็นประเภท HFO หรือสารทำความเย็นที่มี GWP ต่ำกว่า ซึ่งได้ถูกเริ่มใช้งานในประเทศไทยกันแล้วอย่างR448a หากคุณอยู่ในธุรกิจที่ต้องใช้ระบบทำความเย็น และมีข้อกังวลเกี่ยวกับสารทำความเย็นที่ใช้อยู่ วันนี้จะมาเปรียบเทียบระหว่างสารทำความเย็นR404a และR448a เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทำความรู้จักR448a เป็นสารทำความเย็นซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ HFO Blends คือส่วนผสมซีโอโทรปิกที่ประกอบด้วย HFO 2 ตัว (R1234ze 7% และ R1234yf 20%) และสารทำความเย็น HFC 3 ตัว
ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์รถยนต์ที่ใช้ในปัจจุบัน ปัจจุบันมีความพยายามที่จะทำให้รถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ได้มีการพัฒนาการระบบใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในส่วนระบบปรับอากาศของรถยนต์ และนำไปสู่การวิเคราะห์รายละเอียดของระบบปรับอากาศ พยายามที่จะคิดค้นการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในระบบปรับอากาศของรถยนต์จะ ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากภายในห้องโดยสารและระบายออกสู่ภายนอกแล้วทำให้คนโดยสารเกิดความเย็น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อใช้โดยสารรถยนต์ เราจึงควรรู้จักเกี่ยวกับน้ำยาแอร์ที่รถยนต์เราใช้ในชีวิตประจำวันไว้บ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้รถยนต์ น้ำยาแอร์รถยนต์มีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน คือ น้ำยา R134a และ R410A -R134a เป็นสารทำความเย็นที่ใช้กันมานาน มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง แต่มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน (GWP) อยู่บ้าง -R410A เป็นสารทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูงกว่า R134a และมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน น้อยกว่า การเลือกใช้น้ำยาแอร์รถยนต์ ควรคำนึง รายละเอียดดังต่อไปนี้ ชนิดของแอร์รถยนต์ ซึ่งแอร์รถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะรองรับการใช้น้ำยาแอร์ที่แตกต่างกัน สภาพอากาศ ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน แนะนำให้ใช้น้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เช่น R410A เป็นต้น ในเรื่องของราคา น้ำยาแอร์รถยนต์แต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ หรือแหล่งที่มาของน้ำยาแอร์