การเลือกใช้สารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์ สารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์ ในปัจจุบันมีมากมายในตอนนี้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดอุณภูมิไม่ว่าจะเป็น การทำความเย็น การเก็บรักษาคุณภาพของอาหาร ช่วยยับยั้งหรือชะลอการเสื่อมของวัตถุดิบ สินค้า จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพ หลักการของการทำความเย็น เกิดขึ้นได้จากการกำจัดความร้อนส่วนเกิน โดยใช้ สารทำความเย็น (Refrigerant) เป็นตัวกลางในการทำความเย็นที่สามารถเปลี่ยนสถานะ ด้วยการให้ความร้อนแฝงเข้ามาช่วยจากอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบทำความเย็น เพื่อให้เข้าใจถึงระบบการทำความเย็น การลดอุณหภูมิให้ต่ำกว่าอุณภูมิห้องนั้น จำเป็นต้องกำจัดความร้อนและป้องกันความร้อนที่จะเกิดขึ้น อัตราในการกำจัดความร้อนออกจากระบบเพื่อให้อุณภูมิลดลงตามที่ต้องการ เรียกว่า “ โหลดของการทำความเย็น” ซึ่งเป็นตัวกำหนดขนาดของระบบทำความเย็น ในปัจจุบัน สารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์หลายชนิดที่นิยมใช้ในระบบการทำความเย็นแบบอัดไอ การเลือกสารทำความเย็น ขึ้นอยู่กับอุณภูมิทีต้องการ ลักษณะการทำงานและความเหมาะสมกับระบบ ลักษณะสำคัญของสารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์ ให้พิจารณาเลือกใช้ดังนี้ ความดันที่ควบแน่น ถ้ามีค่าสูงมากเกินไป ก็จะมีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ในการติดตั้งคอนเดนเซอร์และท่อ อุณหภูมิวิกฤตควรมีค่าสูง หากมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิวิกฤตไอของสารทําความเย็น น้ำยาทำความเย็นจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นของเหลวได้ โดยเฉพาะในการใช้งานด้านคอนเดนเซอร์ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศนั้น อุณหภูมิวิกฤต ไม่เป็นพิษ ไม่ติดไฟง่าย มีระดับความปลอดภัยอยู่ที่ ระดับ A1 หรือหากจำเป็นต้องใช้สารทำความเย็นที่มีพิษ หรือสามารถติดไฟได้ตั้งแต่ A2L ขึ้นไป ควรมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการใช้งานอย่างเคร่งครัด ไม่ควรมีฤทธิ์กัดกร่อนวัสดุในระบบทําความเย็น ราคาเหมาะสมกับต้นทุน และประสิทธิภาพ โดยตั้งอยู่บนมาตรฐาน
Category Archives: แอร์บ้าน
สาเหตุหลักที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น ปัจจุบันอากาศในเมืองไทยส่วนใหญ่มีแต่จะร้อนกับร้อนมากขึ้น ดังนั้นเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ จึงจำเป็นสำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์เป็นอย่างมาก ช่วยให้คลายร้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน แต่ถ้าหากเกิดปัญหาแอร์รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ มีแต่ลมออก ไม่มีความเย็น สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ แอร์รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ เกิดปัญหา ถ้าเราอยากให้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ใช้งานได้ยาวนาน ไม่พังไวเกินไป เราควรรู้สาเหตุหลักที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น และวิธีการดูแลรักษาเพื่อที่เครื่องปรับอากาศในรถยนต์จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ตู้แอร์ตัน และสายท่อแอร์ต่างๆ เกิดรั่วซึม ตู้แอร์ที่สกปรกเกิดจาการอุดตันของเศษฝุ่นละลองต่างๆ ที่ถูกพัดลมดูด สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ ค่อยๆ ปลิวมาติดทีละเล็กทีละน้อย เกิดการสะสม ก็ทำให้ตู้แอร์ตันได้เช่นกัน และสายท่อแอร์ต่าง เกิดการรั่วซึม ต้องคอยเช็ครอยรั่วในระบบก่อน เพราะระบบแอร์นั้นเป็นระบบปิด น้ำยาแอร์ไม่สามารถหายไปเองได้ อาจเกิดรอยรั่วซึมน้ำยาออก ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น ลองตรวจสอบได้โดยการนำน้ำแชมพูหรือน้ำสบู่มาตีเป็นฟองแล้วนำไปทาตามข้อต่อต่างๆ ของระบบแอร์ แล้วสังเกตว่า ตรงจุดไหนเกิดเป็นฟองอากาศลอยขึ้นมา แสดงว่าจุดนั้นเกิดการรั่วซึมอยู่ ให้ช่างทำการแก้ไข น้ำยาแอร์ขาดหรือหมด อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็นได้ เพราะจะทำให้แอร์เย็นน้อยลงหรือไม่เย็นเลย จะมีแต่ลมร้อนๆ ออกมาจากช่องแอร์ วิธีการแก้ไขให้ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน แล้วสังเกตุดูว่ามีฟองอากาศเล็กๆ สีขาว ตรงแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถ แล้วทำการเติมน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แอร์เป็นน้ำแข็ง พัดลมแอร์ที่พัดออกมาจากช่องแอร์
ล้างแอร์ มีข้อดี ข้อเสีย และมีความสำคัญอย่างไร การติดตั้งแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ จุดประสงค์ก็เพื่อปรับอุณหภูมิของห้องให้เย็นลง สามารถทำงาน ทำกิจกรรมภายในบริเวณหรือสถานที่นั้น ๆ ได้อย่างมีความสุข และได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพ การทำงานของแอร์ยังช่วยฟอกอากาศที่เราหายใจเข้าไปให้สะอาดขึ้น ควบคุมความชื้นภายในห้อง และช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก การล้างแอร์จึงนอกจากเป็นการทำความสะอาดฝุ่นละออง และไรฝุ่น ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ให้ดีขึ้น การล้างแอร์ คืออะไร การล้างแอร์ หมายถึง การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ นอกจากจากการล้างทำความสะอาดคอย์เย็นและคอย์ร้อน ทำความสะอาดขจัดครางฝุ่นละออง ยังรวมไปถึงการตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ การตรวจเชคเครื่องปรับอากาศ การบำรุงรักษา และการตรวจเช็คระบบน้ำยา ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศให้ดียิ่งขึ้น การล้างแอร์ สำคัญอย่างไร ระบบการทำงานของแอร์ นอกจากปรับอุณหภูมิควบคุมความเย็นแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศ กรองฝุ่นละออง และไรฝุ่น ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก การล้างแอร์ จึงเป็นขั้นตอนหนึ่งในบำรุงดูแลรักษาที่มีความสำคัญ ดังนี้ การล้างแอร์ ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากเครื่องปรับอากาศ เช่น ภูมิแพ้จากไรฝุ่น โรคหอบ และโรคหืด การล้างแอร์ เป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ และช่วยให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การทำความสะอาด และล้างแอร์ เป็นการลดปริมาณเชื้อโรคในอากาศและการสะสมของฝุ่นละออง การล้างแอร์ ช่วยลดปริมาณกลิ่นอับชื้น
เคล็ดลับการล้างแอร์ พร้อมวิธีดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ เชื่อว่าปัญหาแอร์ไม่เย็น เครื่องปรับอากาศมีปัญหา หรือน้ำยาแอร์หมด หาช่างล้างแอร์ไม่ได้ เป็นปัญหาจุกจิกกวนใจที่หลาย ๆ คนเคยประสบมาด้วยตัวเอง เมื่อการใช้เครื่องปรับอากาศภายในบ้านหรือที่ทำงาน เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ เพียงเราเรียนรู้การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศและการล้างแอร์อย่างถูกวิธี ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เคล็ดลับการล้างแอร์ พร้อมวิธีดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ โครงสร้างและส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ ปัญหาแอร์ไม่เย็น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ก่อนที่จะวิเคราะห์หรือสังเกตลักษณะของแอร์เพื่อหาสาเหตุ ควรรู้จักส่วนประกอบคร่าว ๆ ของเครื่องปรับอากาศกันก่อน โดยทั่วไปส่วนประกอบของแอร์จะแบ่งเป็นส่วนที่อยู่ในบ้าน เรียกว่า “คอยล์เย็น” และส่วนที่อยู่นอกบ้าน เรียกว่า “คอยล์ร้อน “ คอยล์เย็น ทำหน้าที่ดูดความร้อนภายในห้อง โดยการทำหน้าที่ของน้ำยาแอร์ที่จะวิ่งผ่านท่อไปที่คอยล์ร้อน ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่นอกบ้าน คอยล์ร้อน ทำหน้าที่เป็นตัวระบายความร้อนออกจากน้ำยาแอร์คอร์ยร้อนจะมีตัวกลางในการระบายความร้อน2แบบคือ ระบายความร้อนด้วยอากาศ และ ระบายความร้อนด้วยน้ำ สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น แผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์สกปรก เนื่องจากมีคราบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ เกาะสะสมบนฟิลเตอร์ การใช้งานเครื่องปรับอากาศ หากเปิดแอร์วันละ 8-12 ชั่วโมงทุกวัน ควรจะล้างแอร์ทุก 6 เดือน น้ำยาแอร์รั่ว ปกติการใช้แอร์น้ำยาแอร์มีโอกาสรั่วซึมได้หลายจุด สาเหตุเกิดจากการติดตั้งแอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือน้ำยาแอร์รั่วเนื่องจากแรงดันน้ำยาภายในระบบมีปัญหา คอมเพลสเซอร์ไม่ทำงาน
3 วิธีล้างแอร์ง่าย ๆ ด้วยตัวเราเอง ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เครื่องปรับอากาศจึงเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นิยมติดตั้งเพื่อทำความเย็นให้บ้านพัก ห้องพัก รวมถึงสำนักงานต่าง ๆ ระบบทำความเย็นที่ดี นอกจากเลือกเครื่องปรับอากาศที่ช่วยประหยัดไฟ ประหยัดพลังงานแล้ว การดูแลรักษาหมั่นล้างทำความสะอาดแอร์ ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 3 วิธีล้างแอร์ง่าย ๆ ด้วยตัวเราเอง การล้างเครื่องปรับอากาศ นอกจากเป็นการทำความสะอาดเพื่อขจัดฝุ่นละออง และไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในเครื่องปรับอากาศ ช่วยให้การทำงานของแอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว การล้างแอร์ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบ และโรคหืด สำหรับการล้างแอร์ยังสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเราเอง ดังนี้ ล้างทำความสะอาดแอร์แผ่นกรองฝุ่น วิธีแรกทำได้โดยการถอดฟิลเตอร์แอร์ หรือแผ่นกรองฝุ่นออกมาทำการล้างทำความสะอาด เพื่อขจัดฝุ่นที่เกาะขวางทางเดินหรือช่องระบายลมให้หลุดออกไป หลังจากล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศแล้ว จากนั้นตากไว้ให้แห้งแล้วนำกลับเข้าไปติดใหม่ จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศกระจายลมเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการล้างแอร์ด้วยวิธีนี้ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง การใช้สเปรย์ล้างคอยล์เย็น การทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศด้วยวิธีนี้ เป็นการนำสเปรย์ล้างคอยล์เย็นที่เป็นโฟมมาฉีดพ่นให้ทั่ว และพรมน้ำสะอาดตามจนกว่าฟองซึมเข้าไปข้างในได้หมด จะทำให้แอร์สะอาด ปราศจากฝุ่นละออง สามารถปล่อยลมเย็นออกมาได้ดีขึ้น ล้างอุปกรณ์และชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ การถอดอุปกรณ์และชิ้นส่วนของเครื่องปรับอากาศที่สามารถถอดได้แล้วนำมาล้าง สามารถทำความสะอาดแอร์ด้วยตนเองวิธีหนี่ง แต่อาจจะต้องมีความชำนาญและมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของแอร์อยู่บ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้การถอดอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนแอร์มีความเสียหาย ข้อดี ของการล้างเครื่องปรับอากาศ
เคล็ดลับ เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ อย่างไรให้คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน เครื่องปรับอากาศ ทั้งระบบปรับอากาศที่ใช้กับพื้นที่ขนาดใหญ่ในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรม และเครื่องปรับอากาศแบบปกติหรือแอร์บ้าน จะมีหลักการทำงานคล้ายๆ กันหรือแตกต่างกันไม่มาก แต่การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และประหยัดพลังงาน ส่วนจะมีเคล็ดลับอย่างไร น้ำยาแอร์.com มีความรู้มาแนะนำอีกเช่นเคย ครับ เคล็ดลับ เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ อย่างไรให้คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน การทำงานของแอร์หรือเครื่องปรับอากาศที่หลัก ๆ มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ เครื่องปรับอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม และเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ที่ใช้ภายในบ้าน จะมีระบบการทำงานไม่แตกต่างกันมากนัก อาทิ แอร์บ้านจะให้สารทำความเย็นวิ่งผ่านคอยล์เย็นเพื่อทำให้เกิดลมเย็น ส่วนระบบปรับอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ จะให้สารทำความเย็นทำน้ำให้เย็นก่อน แล้วจึงส่งน้ำเย็นไปหา ท่อส่งลม เพื่อผลิตอากาศเย็นเข้าไปยังพื้นที่ที่ต้องการทำความเย็น ส่วนการเลือกเครื่องปรับอากาศทั้ง 2 ประเภท ให้ใช้งานได้คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน มีเคล็ดลับ ดังนี้ เลือกประเภทและรูปแบบของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งาน แม้ว่าแอร์หรือเครื่องปรับอากาศที่ใช้กันทั่วไปหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ แอร์อุตสาหกรรมและแอร์บ้าน แต่แอร์ทั้ง 2
แอร์โรงงานอุตสาหกรรม กับ แอร์บ้าน ต่างกันอย่างไร แอร์หรือระบบปรับอากาศ มีความสำคัญและจำเป็นต่อการใช้งานในอาคาร บ้านพัก การเก็บรักษาผลผลิต จำเป็นต่อโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตอาหาร และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ แอร์ที่นิยมใช้กันทั่วไปจึงมีหลายประเภทและหลายขนาด อีกทั้งการเลือกใช้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน นอกจากการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย แอร์โรงงานอุตสาหกรรม กับ แอร์บ้าน ต่างกันอย่างไร แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ แอร์ใช้สำหรับพื้นที่ทำความเย็นที่มีขนาดเล็ก เช่น ใช้ในห้อง บ้านพัก อาคาร ร้านค้า หรือสำนักงาน และแอร์ที่ใช้กับพื้นที่ทำความเย็นที่มีขนาดใหญ่ เช่น แอร์ห้าง หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งคุณสมบัติของแอร์ และลักษณะการใช้งานก็จะแตกต่างกัน ดังนี้ แอร์โรงงานอุตสาหกรรม แอร์โรงงานอุตสาหกรรม หรือ แอร์ที่ใช้กับพื้นที่ทำความเย็นขนาดใหญ่ เป็นแอร์ที่มีระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ โดยที่มีขนาด BTU มากกว่า 150,000 ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าหรืออาคารขนาดใหญ่ ที่ต้องการชะลอคุณภาพของสินค้าหรือเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น แอร์อุตสาหกรรมจึงเป็นแอร์รุ่นที่ต้องอยู่ในการดูแลของพนักงานและวิศวกรเป็นพิเศษ ซึ่งจะแบ่งระบบเป็น
5 สาเหตุที่ทำให้ให้แอร์บ้านพังไว ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นิยมใช้ในทุกครัวเรือน เพราะอากาศทุกวันนี้ร้อนขึ้น จึงทำให้คนเราหันมาใช้แอร์ในเกือบทุกบ้าน เพื่อคลายร้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน ถ้าเราอยากให้เครื่องปรับอากาศใช้งานได้ยาวนาน ไม่พังไวเกินไป เราควรรู้สาเหตุที่ทำให้แอร์พังไว และวิธีการดูแลรักษาเพื่อที่เครื่องปรับอากาศจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ สาเหตุที่ทำให้แอร์พังไว มีดังนี้ 1.การไม่ล้างแอร์เป็นเวลานานๆ ถ้าแอร์บ้านสกปรก สังเกตุจาก แอร์ที่เป่าลมออกมาและคอมเพรสเซอร์ก็ทำงานปกติ ให้สันนิษฐานว่า ต้องทำการล้างแอร์ ซึ่งความถี่ในการล้าง ควรปีละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ และหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ (ฟิลเตอร์) ทุกอาทิตย์ โดยการดึงแผ่นกรองออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า และตากทิ้งไว้ให้แห้งและนำมาใส่เข้าปกติ การเปิดประตูหรือหน้าต่างขณะแอร์ทำงาน การเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้ ขณะที่แอร์ทำงาน จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป เพราะอากาศภายในห้อง มีขนาดใหญ่ กว่าคอมเพรสเซอร์จะทำงาน เพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องได้ ต้องใช้เวลานาน เครื่องจะทำงานหนักเกินไป ควรปิดประตูหรือหน้าต่างให้สนิทในขณะที่เปิดแอร์ การเปิด-ปิดแอร์บ่อยๆ จะทำให้ระบบการทำงานของไฟ จะกระชาก ทำให้สวิตช์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง การปิดรีโมทก็สำคัญ ควรปิดที่รีโมทก่อน รอให้หน้ากากเครื่องปรับอากาศพับสนิท แล้วค่อยปิดที่เบรกเกอร์ การปรับอุณหภูมิต่ำจนเกินไป การปรับอุณหภูมิห้อง ควรตั้งอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส