Category Archives: แอร์รถยนต์

รถยนต์ควรล้างแอร์กี่ครั้งต่อปี และควรล้างวิธีไหนดีที่สุด

รถยนต์ควรล้างแอร์กี่ครั้งต่อปี และควรล้างวิธีไหนดีที่สุด สภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัด เมื่อเราต้องเจอกับปัญหาแอร์รถยนต์ที่ไม่เย็น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนใช้รถยนต์ไม่อยากเจอ เพราะการต้องขับรถยนต์ฝ่าการจราจรที่ติดขัด โดยระบบปรับอากาศรถยนต์ไม่สมบูรณ์คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเป็นแน่ และหากแอร์รถยนต์มีกลิ่นอับ ลมแอร์เบากว่าปกติ หรือเริ่มมีน้ำหยดลงพื้นห้องโดยสาร อาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เราควรต้องล้างแอร์รถยนต์ได้แล้ว เพราะอาจจะมีสิ่งสกปรกอุดตันสะสมในตู้แอร์ ซึ่งปัจจุบัน มีหลายวิธี แล้วแต่เราจะเลือกล้างวิธีไหนดีที่สุด และควรล้างแอร์กี่ปีครั้ง             ล้างแอร์รถยนต์มี 3 วิธี 1.การล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้  เป็นวิธีที่ล้างที่สะอาดที่สุด เหมาะสำหรับแอร์ที่มีความสกปรกมาก ต้องอาศัยความชำนาญของช่าง เพราะเป็นการรื้อตู้แอร์เพื่อถอดคอยล์เย็นออกมาล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาด จะยุ่งยาก ราคาสูง และต้องเติมน้ำยาแอร์เข้าระบบใหม่ รวมถึงควรเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วแอร์ด้วย ข้อเสียคือ การรื้อถอดคอนโซลออกหมด หากช่างไม่มีความชำนาญ หรือไม่ระมัดระวังมากพอ อาจเสี่ยงเกิดความเสียหายเป็นได้ 2.การล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องรื้อคอนโซลออก แค่ใช้เครื่องสอดท่อเพื่อฉีดน้ำยาทำความสะอาดเข้าไป เหมาะกับกรณีตู้แอร์ไม่สกปรกมากหรือได้รับการดูแลเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพราะประสิทธิภาพจะสู้การถอดตู้ออกมาล้างไม่ได้ แต่ค่าใช้จ่ายต่ำ สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสี่ยงต่อความเสียหายกับรถยนต์ 3.การล้างแอร์รถยนต์ด้วยตัวเอง สามารถทำเองได้ไม่ยาก โดยใช้สเปรย์ทำความสะอาดแอร์รถยนต์ ที่หาซื้อได้ทั่วไปในราคาหลักร้อยฉีดเข้าไปในช่องแอร์ ทิ้งไว้ตามขั้นตอนบนฉลาก น้ำยาก็จะไปชำระล้างสิ่งสกปรกออกมาทางท่อน้ำทิ้ง แต่วิธีนี้ เหมาะกับรถใหม่หรือตู้แอร์ที่มีความสกปรกน้อย และต้องล้างอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดการอุดตันรวมถึงกลิ่นอับได้

เปิดแอร์สุดแล้ว แอร์รถยนต์ก็ไม่เย็น เกิดจากสาเหตุอะไร

เปิดแอร์สุดแล้ว แอร์รถยนต์ก็ไม่เย็น เกิดจากสาเหตุอะไร ปัจจุบันคนใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางกันมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่คนใช้รถยนต์ ไม่อยากให้เกิดขึ้นสักเท่าไรนัก คือ ปัญหา แอร์รถยนต์ไม่เย็น เพราะด้วยอากาศของเมืองไทยนั้นไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อนระอุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไหนจะต้องกับมลภาวะทางอากาศ เป็นพิษอีก หากต้องขับรถยนต์เปิดกระจกด้วยอีก จึงเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดไม่น้อย สำหรับผู้ที่ต้องมีความจำเป็นใช้รถยนต์อยู่ตลอดเวลา 1.กรองแอร์รถยนต์อุดตัน คือ การอุดตันของระบบระบายอากาศ ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่กรองอากาศแอร์ที่สกปรกจากฝุ่น หรืออาจจะมีคราบสกปรก คราบเชื้อรา ทำให้ช่องแอร์อุดตัน ส่งผลให้ระบบปรับอากาศในรถยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะมีลักษณะของกลิ่นอับที่รู้สึกได้ชัดเจนขึ้นด้วย 2.แอร์รถยนต์รั่ว และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบ เช็คน้ำยาแอร์และจุดเชื่อมต่อของระบบปรับอากาศ เพราะหากเกิดการรั่วไหลของท่อน้ำยาแอร์ที่จุดใดจุดหนึ่ง ความเย็นจะค่อยๆ ลดลงตามปริมาณของน้ำยาแอร์ที่รั่วออกจากระบบ จนในที่สุดช่องแอร์ภายในรถยนต์ก็จะมีเพียงแต่ลมออกมาเท่านั้น วิธีการตรวจเช็ค อาจทำได้โดยใช้น้ำหรือน้ำสบู่ทาลงบริเวณท่อต่างๆ หากเกิดฟองอากาศแสดงว่ามีการรั่วในตรงจุดนั้นเป็นได้ 3.ระบบไฟไม่ทำงาน อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รีเลย์เสียหายทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ไปจนถึงไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในรถที่มีอายุการใช้งานที่นานมาแล้ว และยิ่งถ้าอุณหภูมิภายนอกมีแนวโน้มสูงเกิน 45 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะให้สายไฟเกิดความร้อนจนลัดวงจรได้ 4.คอมเพรสเซอร์แอร์แอร์มีปัญหา คอมเพรสเซอร์มีหน้าที่สำคัญที่ทำให้อากาศภายในรถยนต์เกิดความเย็น ซึ่งถ้าหากตัวคอมเพรสเซอร์มีปัญหาเกิดการขัดข้องหรือมีการทำงานที่ผิดปกติก็อาจทำให้แอร์ในรถยนต์ไม่เย็นได้ ส่วนอาการของคอมเพรศเซอร์เสียนั้น มีหลายสาเหตุ เช่น สายพาน ลูกสูบ หรือคอมมีอายุการใช้งานมายาวนานแล้ว เป็นต้น 5.พัดลมแอร์เสีย