Category Archives: น้ำยาแอร์รถยนต์

ทำไม น้ำยาแอร์ R134a ถึงกลายเป็นมาตรฐานสำหรับระบบปรับอากาศในปัจจุบัน

ทำไม น้ำยาแอร์ R134a ถึงกลายเป็นมาตรฐานสำหรับระบบปรับอากาศในปัจจุบัน               ในปัจจุบันก๊าซเรือนกระจกที่ปกคลุมโลกจะกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้บนโลก ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นเร็วมาก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมดุลของธรรมชาติ และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงมากมายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ และปัจจุบันได้มีความพยายามที่จะพัฒนา สารทำความเย็น ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ระบบทำความเย็นมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม น้ำยาแอร์ R134a เคยเป็นสารทำความเย็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากและกลายเป็นมาตรฐานในระบบปรับอากาศเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากมีข้อดีหลายประการที่โดดเด่นกว่าสารทำความเย็นชนิดอื่นๆ ได้แก่ เป็นมิตรต่อชั้นโอโซน น้ำยาแอร์ R134a ไม่มีคลอรีน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำลายชั้นโอโซน ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทดแทนสารทำความเย็นชนิดเก่าที่ทำลายชั้นโอโซน เช่น น้ำยาแอร์ R 12 ประสิทธิภาพในการทำความเย็นดี น้ำยาแอร์ R134a มีคุณสมบัติทางอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการใช้งงานในระบบปรับอากาศ ทำให้สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย น้ำยาแอร์ R134a ไม่ติดไฟ และมีความเป็นพิษต่ำ ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการใช้งาน น้ำยาแอร์ R134a เริ่มลดลง เนื่องจากหลายปัจจัยดังนี้ ผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน แม้ว่า น้ำยาแอร์ R134a จะไม่ทำลายชั้นโอโซน แต่ก็ยังมีศักยภาพในการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนสูง มีสารทำความเย็นชนิดใหม่ๆ

เครื่องมือช่างที่ขาดไม่ได้เกจ์วัดแรงดันน้ำยาแอร์รถยนต์

เครื่องมือช่างที่ขาดไม่ได้ “ เกจ์วัดแรงดันน้ำยาแอร์รถยนต์ ”               ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน ทำให้ภูมิอากาศของประเทศมี ลักษณะเป็นแบบร้อนชื้น ทำให้ร้อนอบอ้าวเกือบตลอดปี อย่างไรก็ตามอุณหภูมิจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่และฤดูกาล ถ้าในช่วงฤดูร้อน การใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ จึงเป็นอย่างมาก ในการใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางของคนทั่วไป ในเครื่องปรับอากาศ จึงต้องอาศัย สารทำความเย็น หรือ ที่เรียกว่า น้ำยาแอร์ มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบปรับอากาศทำให้เรารู้สึกเย็น ผ่อนคลายความร้อนลงได้ หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า น้ำยาแอร์เป็นอย่างดี ที่ทำให้เกิดความเย็น แต่หากจะมองให้ลึกไปกว่านั้น คนส่วนใหญ่ จะไม่ทราบเครื่องมือวัดแรงดันน้ำยาแอร์รถยนต์ ส่วนใหญ่ช่างแอร์ทั่วไปมักจะทราบกันดี เพราะเป็นเครื่องมือเฉพาะที่ช่างแอร์ทุกท่าน ขาดไม่ได้สำหรับงานระบบปรับอากาศ เพราะจะช่วยในการตรวจสอบความดันของสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) ในระบบทำความเย็น บทความนี้ถึงแม้ท่านไม่ใช่ช่างแอร์ แต่สามารถเพิ่มเติมความรู้ให้ท่านได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น               เกจ์วัดแรงดัน หรือ แมนิโฟล์เกจ์ (Manifold Gauge) เป็นเครื่องมือที่ช่างเทคนิคใช้ในการตรวจเช็คและเติมน้ำยาแอร์ให้กับระบบปรับอากาศในรถยนต์ เครื่องมือชิ้นนี้จะช่วยให้ช่างสามารถวัดค่าความดันของน้ำยาแอร์ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงปริมาณน้ำยาแอร์ที่อยู่ในระบบ และสภาพของระบบปรับอากาศ               ส่วนประกอบหลักๆ ของ เกจ์วัดแรงดัน มีดังนี้ ท่อดูด ใช้สำหรับต่อเข้ากับระบบแอร์เพื่อดูดน้ำยาแอร์ออก ท่อเติม ใช้สำหรับต่อเข้ากับระบบแอร์เพื่อเติมน้ำยาแอร์เข้าไป

ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์รถยนต์ที่ใช้ในปัจจุบัน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์รถยนต์ที่ใช้ในปัจจุบัน               ปัจจุบันมีความพยายามที่จะทำให้รถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ได้มีการพัฒนาการระบบใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในส่วนระบบปรับอากาศของรถยนต์ และนำไปสู่การวิเคราะห์รายละเอียดของระบบปรับอากาศ พยายามที่จะคิดค้นการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในระบบปรับอากาศของรถยนต์จะ ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากภายในห้องโดยสารและระบายออกสู่ภายนอกแล้วทำให้คนโดยสารเกิดความเย็น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อใช้โดยสารรถยนต์ เราจึงควรรู้จักเกี่ยวกับน้ำยาแอร์ที่รถยนต์เราใช้ในชีวิตประจำวันไว้บ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้รถยนต์               น้ำยาแอร์รถยนต์มีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน คือ น้ำยา R134a และ R410A                        -R134a เป็นสารทำความเย็นที่ใช้กันมานาน มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง แต่มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน (GWP) อยู่บ้าง               -R410A เป็นสารทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูงกว่า R134a และมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน น้อยกว่า               การเลือกใช้น้ำยาแอร์รถยนต์  ควรคำนึง รายละเอียดดังต่อไปนี้ ชนิดของแอร์รถยนต์ ซึ่งแอร์รถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะรองรับการใช้น้ำยาแอร์ที่แตกต่างกัน สภาพอากาศ ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน แนะนำให้ใช้น้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เช่น R410A เป็นต้น ในเรื่องของราคา น้ำยาแอร์รถยนต์แต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ หรือแหล่งที่มาของน้ำยาแอร์

ข้อควรรู้ รถยนต์ของเราใช้น้ำยาแอร์ตัวไหนกัน

ข้อควรรู้ รถยนต์ของเราใช้น้ำยาแอร์ตัวไหนกัน ในปัจจุบัน การใช้รถยนต์เป็นปัจจัยอีกอย่างที่คนทั่วไปใช้กันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนบนท้องถนนก็จะเห็นแต่รถยนต์ ซึ่งทุกวันนี้เพิ่มขึ้นมากจากสมัยก่อน จะมีสักกี่คนที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับน้ำยาแอร์รถยนต์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันว่า เราใช้ตัวไหนกัน และแต่ละน้ำยาแอร์มีประโยชน์หรือคุณสมบัติอะไรบ้าง ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ บทความนี้จะบอกข้อควรรู้ เกี่ยวกับรถยนต์ของเราใช้น้ำยาแอร์ตัวไหน เพื่อเป็นความรู้สำหรับผู้อ่านในอนาคตได้บ้าง หากเป็นรถยนต์ เดิม ๆ มือ 1 ออกจากศูนย์ ไม่เคยดัดแปลงระบบแอร์ ให้สังเกตง่ายๆเลย หากเป็นรถยนต์ ที่ผลิตก่อนปี 1996 มั่นใจได้เลยว่า ใช้น้ำยาแอร์ R12 แต่หากเป็นรถยนต์ที่ผลิดตั้งแต่ปี 1996 – ปัจจุบัน ส่วนมากจะเป็น น้ำยา R134a ตัวอย่างน้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์ ดังนี้ R134a เป็นน้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไป ผลิตก่อน ปี 2017 R1234yf เป็นน้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ผลิตหลังปี 2017 R290 เป็นน้ำยาแอร์ธรรมชาติ ที่เริ่มมีการใช้ในรถยนต์บางรุ่น วิธีตรวจสอบว่ารถยนต์ใช้น้ำยาแอร์อะไร 1.ดูจากคู่มือรถยนต์ ในคู่มือจะระบุประเภทของน้ำยาแอร์ที่ใช้ 2.ดูรุ่นและปีของรถยนต์ จะช่วยระบุประเภทของระบบแอร์และน้ำยาแอร์ที่รองรับ 3.ดูจากฉลากบนถังน้ำยาแอร์

การเติมน้ำยาแอร์ และการแวคคั่ม รถยนต์ คืออะไร

การเติมน้ำยาแอร์ และการแวคคั่ม รถยนต์ คืออะไร สังคมไทยในปัจจุบัน มีการใช้ยานพาหนะในการเดินทางเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ส่วนบุคคล รถประจำทางรวมถึงรถยนต์ที่รับจ้าง หรือรถบรรทุกต่างๆ บางทีรถติดไฟแดงนานๆ แอร์จะไม่ค่อยเย็น มีแต่ลมร้อนๆ ออกมา แต่พอได้วิ่งหน่อย แอร์รยนต์ก็จะมีลมเย็นๆ ออกมาบ้าง แต่ถ้ารถติดอีกเมื่อไร แอร์จะไม่มีความเย็นเลย สิ่งนี้ที่คนใช้รถยนต์ ไม่อยากให้เกิดขึ้นสักเท่าไรนัก คือ ปัญหา แอร์รถยนต์ไม่เย็น เพราะด้วยอากาศของเมืองไทยนั้นไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อนระอุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไหนจะต้องกับมลภาวะทางอากาศ เป็นพิษอีก หากต้องขับรถยนต์เปิดกระจกด้วยอีก จึงเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดไม่น้อย สำหรับผู้ที่ต้องมีความจำเป็นใช้รถยนต์อยู่ตลอดเวลา การเติมน้ำยาแอร์ คือ ในระบบแอร์รถยนต์เรานั้น น้ำยาแอร์อาจจะขาดเพียงเล็กน้อย หรือขาดมากก็แล้วแต่ ช่างแอร์ส่วนใหญ่ เขาจะใช้วิธีต่อสายแล้วดูที่เกจ์ ปล่อยน้ำยาจากถังเข้าสู่ระบบแอร์รถยนต์ แล้วช่างแอร์จะมองที่หน้าปัด ถ้าเริ่มใสแล้วก็จะปิดวาล์วที่ตัวถังน้ำยาแอร์ แล้วก็จะสังเกตว่า เติมน้ำยาแอร์เข้าไปเยอะหรือน้อย คิดเงินตามปริมาณน้ำยาแอร์ที่เติมให้ การเติมรถยนต์ที่มีขนาดกลาง น้ำยาแอร์ไม่น่าจะเกิน 1 กก. ข้อเสีย คือ การเติมลักษณะนี้ จะมีอากาศเข้าไปปะปนอยู่ภายในระบบแอร์ด้วย อากาศที่เข้าไปนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการเติมของช่างแต่ละท่าน และน้ำยาแอร์แต่ละแหล่งที่มาในการเติมที่คุณภาพจะไม่เหมือนกัน บางทีน้ำยาแอร์ในระบบรถยนต์เราเป็นของมีคุณภาพดี แต่พอไปเติมเพิ่มแล้ว

ตัวเลือกในการเลือกซื้อน้ำยาแอร์ 134a ยี่ห้อไหนดี

ตัวเลือกในการเลือกซื้อน้ำยาแอร์ 134a ยี่ห้อไหนดี รถยนต์เป็นอีกปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก รถกระบะ รถเก๋ง หรือรถมอเตอร์ไซด์ ก็ล้วนแต่เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง แต่บางท่านอาจมองข้ามไปถึงความสำคัญของ เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ เราจะมาทำความรู้จัก ตัวเลือกในการเลือกซื้อ น้ำยาแอร์ 134a ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำความเย็นให้รถยนต์เราเย็นสบาย อากาศปลอดโปร่งภายในรถยนต์ของเรา ไม่ว่าจะในด้านความปลอดภัยในการใช้งาน และช่วยต่ออายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น เราจะต้อง มีตัวเลือกซื้อ น้ำยาแอร์ 134a ที่ดี อาทิเช่นคุณสมบัติ ตรงตามที่เราต้องการ จุดเดือด องค์ประกอบทางเคมี แรงดันควบแน่น ต่อมา ก็เป็นมาตรฐานของกระบวนการผลิต และสุดท้ายคือ ความพึงพอใจของเรา รวมถึงราคาที่คุ้มค่า ตัวเลือกในการเลือกซื้อ น้ำยาแอร์ 134a ควรมีดังต่อไปนี้ ได้รับการยอมรับการตรวจสอบจากนานาชาติ มีมาตรฐานของกระบวนการผลิตที่มีการตรวจสอบได้ ลูกค้าใช้แล้ว เกิดความพึงพอใจในคุณภาพสินค้าและราคาที่คุ้มค่าได้ การนำเข้าสินค้า ผ่านระบบการตรวจสอบและคัดกรอง ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมทุกประการ การบรรจุภัณฑ์ได้มาตรฐาน ตรงตาม คุณสมบัติของกระทรวงอุตสาหกรรม มีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของน้ำยา ไม่มีสารอื่นใดเจือปน สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนในการบรรจุภัณฑ์นั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้งาน มีสต็อกสินค้าให้พร้อมในการสั่งซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา การขนส่งสินค้า

น้ำแอร์รถยนต์หยด ผิดปกติหรือไม่ เกิดจากสาเหตุอะไร

น้ำแอร์รถยนต์หยด ผิดปกติหรือไม่ เกิดจากสาเหตุอะไร ปัจจุบัน มีการใช้รถยนต์ในการเดินทาง อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในรถยนต์ ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศภายในรถยนต์ของเราให้กลายเป็นสวรรค์ หรือนรกได้ภายในนั้นคือ เครื่องปรับอากาศในรถยนต์นั้นเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องสังเกต คือ น้ำยาแอร์รถยนต์หยดใต้ท้องรถ โดยลักษณะเป็นน้ำใสๆ เหมือนน้ำเปล่า เพราะเกิดจากการทำงานของระบบแอร์ที่ดึง ความชื้นออกจากห้องโดยสาร เพื่อทำให้อุณหภูมิ ต่ำลง และกลั่นตัวเป็นน้ำ จึงต้องมีการระบายไปตามท่อที่ถูกปล่อยลงมาใต้ท้องรถยนต์ แต่ถ้าน้ำแอร์หยดนองพื้นมากเกินไป หรือหยดภายในห้องโดยสารนั้น หมายความว่า ระบบแอร์อาจกำลังมีปัญหา เกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ น้ำยาแอร์ต่ำ ระบบแอร์รถยนต์จำเป็นต้องอาศัยสารทำความเย็นหรือที่เรียกกันว่า น้ำยาแอร์ ซึ่งหากน้ำยาแอร์มีระดับต่ำกว่ากำหนดมากๆ จะทำให้ความดันในระบบลดลง ตู้แอร์ (คอยล์เย็น) กลายเป็นน้ำแข็ง จึงมีน้ำไหลออกตามท่อน้ำทิ้งมากกว่าปกติ และทำให้ประสิทธิภาพในการทำความมเย็นลดลงด้วย ท่อน้ำทิ้งเกิดการอุดตัน หากท่อน้ำทิ้งของระบบแอร์รถยนต์อุดตันจากสิ่งสกปรกสะสม จนไม่สามารถระบายออกนอกรถได้ น้ำที่เกิดจากการทำงานของระบบแอร์จะล้นออกมาอยู่ภายในห้องโดยสารแทน แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีน้ำแอร์หยดในรถคือ การติดตั้งท่อน้ำทิ้งของรถยนต์ไม่ถูกต้อง รวมถึงการใช้ถาดรองน้ำทิ้งผิดไปจากสเปกเดิม หรือแตกร้าวจากอุบัติเหตุ กรองแอร์ตัน เมื่อแอร์รถยนต์เกิดการใช้งานเป็นประจำ มักสะสมสิ่งสกปรกอยู่ภายใน ซึ่งโดยปกติแล้ว ระบบแอร์จะมีการติดตั้งแผ่นกรองอากาศ และต้องเปลี่ยนตามกำหนด แต่ถ้าปล่อยให้กรองอากาศตัน ก็จะทำให้ตู้แอร์เป็นน้ำแข็ง ที่เป็นสาเหตุให้มีน้ำระบายออกจากระบบแอร์มากเกิดไปเช่นกัน ซีลรั่ว ระบบแอร์ในรถยนต์ซีลยางหรืออุปกรณ์ข้อต่อต่างๆ เกิดเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานที่นาน

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม เกิดจากสาเหตุใด

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม เกิดจากสาเหตุใด ประเทศไทยแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู จะมีฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน คือระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี ประเทศไทยมีเมฆมาก จะพบกับร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทย จึงทำให้มีฝนตกชุก เมื่อเข้าสู่หน้าฝน ในการเดินทางทุกคนต้องการความสะดวกสบาย รถยนต์เป็นอีกปัจจัยหลักที่ จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวัน นอกจากจะเจอปัญหาเรื่องอากาศที่ร้อนที่น่ารำคาญใจแล้ว หากเจอปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็นซ้ำไปอีก อาจส่งผลเสียกับรถยนต์ของเราได้ เราจึงควรมาทราบสาเหตุหลักๆ ที่แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม เกิดจากสาเหตุ ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ แอร์รถยนต์ไม่เย็น เพราะระบบแอร์รั่ว อาจจะซึมตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสายท่อแอร์ ข้อ ต่อ หรือ ตู้แอร์รถยนต์รั่ว สาเหตุมาจาก การล้างตู้แอร์บ่อยเกินไป ทำให้น้ำยาล้างตู้แอร์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเข้าไปกัดกร่อนได้ ซึ่งรอยรั่วเหล่านี้จะทำให้ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นได้เช่นกัน รอยรั่วของระบบแอร์รถยนต์ ตรวจสอบได้โดยใช้น้ำสบู่หรือผสมแชมพูตีเป็นฟอง แล้วนำไปทาตามจุดต่างๆ ตามรอยต่อนั้นๆ แอร์รถยนต์ไม่เย็น เพราะน้ำยาแอร์รถยนต์หมด สาเหตุมักจะเกิดจากปริมาณน้ำยาแอร์รถยนต์มี ปริมาณน้อย ทำให้มีปริมาณน้ำยาที่ถูกส่งจากคอมเพรสเซอร์เพิ่มแรงดันเข้าสู่แผงคอยล์เย็น เพื่อไปดูดจับความร้อนภายในห้องโดยสารมีไม่มากพอ ทำให้อากาศภายในห้องโดยสารยังคงร้อนอยู่ ซึ่งการที่น้ำยาแอร์เหลือน้อย นั้นอาจจะเกิดจากการใช้งานที่ยาวนาน และไม่ได้เติมน้ำยาแอร์หรือเกิดการรั่วซึมในระบบแอร์ คอมเพรสเซอร์รถยนต์ไม่ทำงาน คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่คอยปรับอุณหภูมิ

ทำความรู้จักระบบของเหลวในรถยนต์ มีอะไรบ้าง และควรเปลี่ยนตอนไหน

ทำความรู้จักระบบของเหลวในรถยนต์ มีอะไรบ้าง และควรเปลี่ยนตอนไหนดี สังคมไทยในปัจจุบัน มีการใช้รถยนต์กันมากขึ้น ซึ่งในแต่ละปี ยอดการผลิตรถยนต์เพิ่มมากขึ้นทุกปี การมีรถยนต์ใช้ส่วนตัวทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากขึ้น ในขณะเดินทาง ยิ่งช่วงหน้าร้อนอากาศยิ่งร้อนจัด ทำให้ทุกคนไม่อยากออกไปข้างนอก ถ้าจำเป็นต้องออก ก็จะใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสบายกว่า เพราะในรถยนต์มีเครื่องปรับอากาศ ทำให้เราผ่อนคลายความร้อนได้ ในขณะเดินทาง และของเหลมในรถยนต์ ก็มีส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนของรถยนต์ อาทิเช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำยาหล่อเย็น น้ำมันเฟืองท้าย ล้วนเป็นส่วนสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในรถยนต์ ที่มีกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่าย ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ต้องหมั่นดูแลรักษาและคอยตรวจเช็คให้อยู่ในสถานะที่สมบูรณ์ เรามาทำความรู้จัก ของเหลวในรถยนต์ดังต่อไปนี้ น้ำมันเครื่อง ถือเป็นของเหลวที่ต้องเปลี่ยนบ่อยมากที่สุด เพราะมีหน้าที่หล่อลื่น ลดการเสียดสี และ ความร้อนของเครื่องยนต์ การเปลี่ยนตามกำหนดเวลาจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องเย็นโดยตรง กำหนดให้เปลี่ยนทุกๆ 8,000 – 10,000 กม. หรือทุกๆ 6 เดือน (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อนกัน) น้ำมันเพาเวอร์ หรือ น้ำมันสำหรับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ช่วยให้หมุนพวงมาลัยได้อย่างเบาแรง ยกเว้นในรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปใช้พวงมาลัยไฟฟ้า ควรหมั่นตรวจเช็กและเติมให้อยู่ในระดับปกติเสมอ ไม่ควรเติมมากเกินไป เพราะจะขยายตัวเพิ่มเมื่อได้รับความร้อน

น้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือ น้ำมันคอมแอร์ มีความสำคัญอย่างไร

น้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือ น้ำมันคอมแอร์ มีความสำคัญอย่างไร ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศที่ร้อน การใช้เครื่องปรับอากาศจึงเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิตของคนทั่วไป ในเครื่องปรับอากาศ จึงต้องอาศัย สารทำความเย็น หรือ ที่เรียกว่า น้ำยาแอร์ มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบปรับอากาศ หลายคน คงคุ้นเคยกับคำว่า น้ำยาแอร์เป็นอย่างดี แต่หากบอกว่า น้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือ น้ำมันคอมแอร์ จะมีใครบ้างที่รู้จัก และเคยเห็นการเติมน้ำมันคอมแอร์ เลยด้วยซ้ำ ยิ่งหากใครเป็นคนที่รักรถยนต์จะต้องมีคำถามต่างๆ ในเรื่องของ น้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือ น้ำมันคอมแอร์ อยู่ในใจแน่นอน หากเราได้มีความรู้ในเรื่องคอมแอร์ ไว้บ้าง ก็สามารถทำให้เราเข้าใจระบบได้มากขึ้น น้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือ น้ำมันคอมแอร์ คือ น้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ ทำงานได้เป็นอย่างดี โดยจะมีหน้าที่เพิ่มกำลังอัดและระบายความร้อนในคอมเพรสเซอร์ ซึ่งจะถูกจำแนกตามชนิดของน้ำยาแอร์เป็นหลัก หากน้ำยาแอร์นั้นใช้ของชนิดใดก็ต้องใช้น้ำมันคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นชนิดเดียวกัน เพราะด้วยระบบแอร์นั้น น้ำมันคอมเพรสเซอร์จะต้องมีผสมเทกับน้ำยาแอร์ จึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับน้ำมันคอมเพรสเซอร์ หรือ น้ำมันคอมแอร์ ที่จะกล่าว มีดังต่อไปนี้ 1. น้ำมันคอมแอร์ เป็นระบบการทำงานปิด ซึ่งการทำงานของคอมแอร์จะเป็นการผสมกันกับน้ำยาแอร์อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันคอมแอร์บ่อยเหมือนเติมน้ำยาแอร์ เพราะจะผสมกันอยู่ในนั้นแล้ว