สารทำความเย็นที่ใช้ในตู้เย็นมีอะไรบ้าง สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกๆครัวเรือนต้องมีและที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ นั่นก็คือ ตู้เย็น ซึ่งใช้ในการเก็บรักษาอาหาร รวมทั้งแช่เครื่องดื่ม เนื้อสัตว์และสิ่งของต่างๆที่จำเป็น ยิ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การได้เปิดตู้เย็นแล้วดื่มน้ำเย็นๆก็ทำให้ผ่อนคลาย สดชื่นและชื่นใจ ซึ่งตู้เย็นแต่ละชนิดแต่ละยี่ห้อก็มีการผลิตและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหลักๆที่สำคัญในการทำความเย็นในตู้เย็น นั่นก็คือ น้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ในตู้เย็นบางชนิดก็ถูกยกเลิกการผลิตและไม่ได้ใช้งานแล้ว และถูกทดแทนพัฒนาขึ้นด้วยน้ำยาแอร์ตัวใหม่เพื่อช่วยลดสภาวะโลกร้อน ลดปรากฎการณ์เรือนกระจก น้ำยาแอร์สำหรับตู้เย็นตัวไหนที่เคยใช้ในอดีต และน้ำยาแอร์ตัวไหนที่กำลังใช้ในปัจจุบัน ออกแบ่งได้ดังนี้ R12 น้ำยาแอร์รุ่นเก่าซึ่งในปัจจุบันพบเจอน้อย เลิกผลิตไปแล้วและไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย เป็นสารที่มีแรงดันต่ำ ใช้ได้ดีกับน้ำมันหล่อลื่นทุกสภาวะ ถ่ายเทความร้อนได้ดี ในอดีตเป็นที่นิยมใช้กันมาก มีความปลอดภัยไม่มีสีไม่ติดไฟ แต่สารชนิดนี้มีค่าที่ทำให้เกิดการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนที่สูง R134a น้ำยาแอร์ตู้เย็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนน้ำยาแอร์ R12 มีแรงดันสูง สามารถดูดความชื้นได้ดี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและไม่ติดไฟ อีกทั้งยังไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนอีกด้วย สามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูงมาก การใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เพราะเป็นสารประกอบเดี่ยวที่สามารถเติมได้เลยหากน้ำยาแอร์ในระบบขาด แต่น้ำยาแอร์ตัวนี้ถือว่ายังมีค่าทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจกที่สูงอยู่ R600 น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ ในตู้เย็นบางยี่ห้อหันมาใช้กันมาก เป็นสารที่มาทดแทนน้ำยาแอร์ R134a ซึ่ง R600ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศและลดสภาวะเรือนกระจกได้ดีกว่า อีกทั้งปริมาณการใช้หากเทียบกับR134aแล้ว จะใช้น้อยกว่ามาก แต่ในสิ่งที่สำคัญของสารชนิดนี้คือ เป็นสารที่มีแรงดันสูง ติดไฟได้ง่าย
Category Archives: น้ำยาแอร์รถยนต์
น้ำยาแอร์ R134a กับ R12 ต่างกันอย่างไร ประเทศไทยมีลักษณะเป็นแบบร้อนชื้นทำให้อากาศร้อนแทบทั้งปี จึงจำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศในการใช้รถยนต์ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางรถยนต์ส่วนบุคคล ปัจจุบันถ้าจะกล่าวน้ำยาแอร์จะเป็นที่รู้จักใช้กันแพร่หลายในระบบแอร์รถยนต์ นอกจากนั้นยังใช้สำหรับเครื่องปรับอากาศรถยนต์ เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ และตู้เย็น ที่ทำอุณหภูมิปานกลางและสูง ถ้าหากเราต้องการทราบว่า รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ ใช้น้ำยาแอร์ตัวไหน ให้สังเกตุได้จาก หากเป็นรถยนต์เดิมๆ มือหนึ่งออกจากศูนย์รถ ไม่เคยคัดแปลงระบบแอร์ และเป็นรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ.ศ.2539 ให้สังเกตุได้เลยว่า ใช้น้ำยาแอร์ R12 แต่หากเป็นรถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบัน ส่วนมากจะใช้น้ำยาแอร์ R134a คุณสมบัติ และ ความแตกต่างของ น้ำยาแอร์ R134a และ R12 มีดังต่อไปนี้ 1.น้ำยาแอร์ R134a เป็นสารทำความเย็นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำยาแอร์ชนิดอื่นเลย จะมีค่าของน้ำยาแอร์ R134aอย่างเดียว 100% ระดับการทำลายโอโซนของสารทำความเย็น (OPD) = 0 ในขณะที่ค่า GWP มีค่า 1430 จะมีแรงดัน
การเปิด-ปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกวิธีและการดูแลรักษาแอร์รถยนต์เบื้องต้น ประเทศไทยเราเป็นเมืองร้อน ทุกวันนี้หลายคนมักเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อความคล่องตัวในการเดินทางและด้วยเรื่องสภาพอากาศค่อนข้างร้อน แอร์รถยนต์จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน และมีผลต่อระบบหายใจของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เนื่องจากต้องสูดดมอากาศที่ไหลเวียนผ่านระบบแอร์รถยนต์อยู่ตลอดเวลาเมื่อเราอยู่ในรถยนต์ไม่มีใครรู้เลยว่า อาจจะเต็มไปด้วย เชื้อโรค ก็เป็นไปได้ วันนี้เราจึงขอนำเสนอการเปิดใช้แอร์รถยนต์ที่ถูกต้องให้ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของแอร์รถยนต์ให้อยู่กับเราไปได้นานๆ ดังนี้ 1.ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรปิดสวิตซ์แอร์(A/C) เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์เป็นตัวฉุดกำลังขณะสตาร์ท เมื่อสตาร์ทและเครื่องวอร์มสักพักแล้วค่อยเปิดสวิตซ์พัดลม โดยใช้ความเร็วพัดลมสูงก่อน เพื่อเป็นการไล่ความร้อนในระบบแอร์รถยนต์ แล้วค่อยเปิดสวิตซ์แอร์ (A/C) การปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกต้อง ควรปิดสวิตซ์แอร์ (A/C)ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางก่อน ประมาณ 5-10 นาที เพื่อลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์และไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น ไม่ให้สะสมจนเกิดเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับ จากนั้นจึงปิดพัดลมแล้วดับเครื่องยนต์ ควรตั้งอุณหภูมิของแอร์ให้เหมาะสมกับห้องโดยสาร และไม่ควรตั้งให้เย็นจนเกินไป เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร แนะนำให้ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 25 องศา เป็นค่ามาตรฐานจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมรถยนต์ สเปรย์ปรับอากาศ เนื่องจากการจะส่งผลต่อระบบการทำงานของคอยล์เย็นโดยเราไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่มักจะมีสารระเหยที่ส่งผลกระทบต่อระบบแอร์ โดยไอระเหยของสารเคมีในสเปรย์ปรับอากาศจะทำปฏิกิริยา ทำให้เกิดฝุ่นไปจับตัวที่คอยล์เย็น จะส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น การถ่ายเทความร้อนก็จะลดลงทำให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นของระบบแอร์ก็จะลดลงไปด้วย ตรวจเช็คแผ่นกรองอากาศแอร์ให้สม่ำเสมอ สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้เอง และถ้าปล่อยให้แผ่นกรองอากาศสกปรกมาก จะทำให้ฝุ่นไปอุดตันได้ สาเหตุนี้ก็มีส่วนทำให้ระบบแอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน แนะนำให้ล้างตู้แอร์ ปีละ 2
น้ำยาแอร์ R134a ใช้ในเครื่องทำความเย็นแบบไหนบ้าง ถ้าพูดถึง สารทำความเย็น (Refirgerants) หรือ ช่างแอร์ชอบเรียกสั้นๆกันว่า น้ำยาแอร์ นั้น ปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย มีหลายยี่ห้อ แล้วแต่ผู้บริโภคจะใช้กัน เรามาทำความรู้จักสารทำความเย็นตัวนี้กัน น้ำยาแอร์ 134a ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำยาแอร์ชนิดอื่นเลย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่ติดไฟ แต่ถ้าสัมผัสกับผิวหนังร่างกายเรา อาจจะทำให้เกิดรอยไหม้ได้ น้ำยาแอร์ R134a จัดอยู่ในกลุ่มสารทำความเย็นประเภท HFC มาแทนที่น้ำยาแอร์ R12 โดยส่วนใหญ่น้ำยาแอร์ R134a เราจะทราบว่าจะใช้กับระบบแอร์รถยนต์ เนื่องจากในระบบแอร์รถยนต์ มีการใช้เติมน้ำยาแอร์ R134a เพื่อทำให้แอร์รถยนต์เย็น แต่ที่จริงแล้วน้ำยาแอร์ R134a มักใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น ในกลุ่มที่ อุณหภูมิสูงถึงอุณหภูมิปานกลาง อาทิเช่น ตู้แช่ ตู้เย็น ระบบชิลเลอร์ แอร์รถยนต์ เป็นต้น และถูกนำไปใช้กับระบบอื่นๆ ด้วยเช่นกันได้แก่ 1.ระบบแอร์ทำความเย็นที่อยู่อาศัย เช่น แอร์เคลื่อนที่ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านเช่า หรือสถานที่ที่จัดงานแสดงสินค้าบริเวณกว้างๆ ระบบแอร์เป็นระบบแบบปิด ถ้าไม่เกิดการรั่วซึมน้ำยาแอร์ไม่ขาดหายออกจากระบบ
สาเหตุหลักที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น ปัจจุบันอากาศในเมืองไทยส่วนใหญ่มีแต่จะร้อนกับร้อนมากขึ้น ดังนั้นเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ จึงจำเป็นสำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์เป็นอย่างมาก ช่วยให้คลายร้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน แต่ถ้าหากเกิดปัญหาแอร์รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ มีแต่ลมออก ไม่มีความเย็น สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ แอร์รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ เกิดปัญหา ถ้าเราอยากให้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ใช้งานได้ยาวนาน ไม่พังไวเกินไป เราควรรู้สาเหตุหลักที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น และวิธีการดูแลรักษาเพื่อที่เครื่องปรับอากาศในรถยนต์จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ตู้แอร์ตัน และสายท่อแอร์ต่างๆ เกิดรั่วซึม ตู้แอร์ที่สกปรกเกิดจาการอุดตันของเศษฝุ่นละลองต่างๆ ที่ถูกพัดลมดูด สิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ ค่อยๆ ปลิวมาติดทีละเล็กทีละน้อย เกิดการสะสม ก็ทำให้ตู้แอร์ตันได้เช่นกัน และสายท่อแอร์ต่าง เกิดการรั่วซึม ต้องคอยเช็ครอยรั่วในระบบก่อน เพราะระบบแอร์นั้นเป็นระบบปิด น้ำยาแอร์ไม่สามารถหายไปเองได้ อาจเกิดรอยรั่วซึมน้ำยาออก ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น ลองตรวจสอบได้โดยการนำน้ำแชมพูหรือน้ำสบู่มาตีเป็นฟองแล้วนำไปทาตามข้อต่อต่างๆ ของระบบแอร์ แล้วสังเกตว่า ตรงจุดไหนเกิดเป็นฟองอากาศลอยขึ้นมา แสดงว่าจุดนั้นเกิดการรั่วซึมอยู่ ให้ช่างทำการแก้ไข น้ำยาแอร์ขาดหรือหมด อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็นได้ เพราะจะทำให้แอร์เย็นน้อยลงหรือไม่เย็นเลย จะมีแต่ลมร้อนๆ ออกมาจากช่องแอร์ วิธีการแก้ไขให้ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน แล้วสังเกตุดูว่ามีฟองอากาศเล็กๆ สีขาว ตรงแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถ แล้วทำการเติมน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แอร์เป็นน้ำแข็ง พัดลมแอร์ที่พัดออกมาจากช่องแอร์
น้ำยาในกลุ่ม HFCs จะถูกแบนแล้วหรือ? เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ระบบทำความเย็น เกือบทั้งหมดซึ่งต้องใช้สารทำความเย็น หรือที่เรียกว่า น้ำยาแอร์ (Refrigerants) สารทำความเย็นที่ถูกใช้ในปัจจุบันจะเป็นประเภทสาร HFCs เช่น R32 ,R410A,R134a เป็นต้น เพื่อจะมาทดแทนสารทำความเย็นประเภท HCFCs อย่างน้ำยา R22 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่ถูกลดเลิกในการผลิตแล้ว สารทำความเย็น HFCs ถึงจะเป็นสารที่มีศักยภาพในการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนต่ำ (OPD) แต่เป็นสารที่มีศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนสภาวะเรือนกระจกที่สูง (GWP) ในการประชุมของประเทศภาคีสมาชิกพิธีสารมอนทรีออล ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2016 ที่ กรุงคิกาลี (Kigali) และได้มีข้อตกลงร่วมกัน ที่เรียกว่า Kigali Amendment ในการลดปริมาณการใช้ และการผลิต สารทำความเย็นประเภท HFCs ลดลงอีก 85% ของปริมาณการใช้ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีแผนการลดการใช้สารเหล่านี้ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เกือบทั้งหมดจะเริ่มมีการควบคุมปริมาณอย่างต่ำ 10% ในปี ค.ศ. 2019 เป้าหมายที่จะให้ลดลง 85% ในปี
แนวโน้มราคา R134a ในช่วงหน้าร้อน เมื่อกล่าวถึงระบบของแอร์รถยนต์แล้วสิ่งสำคัญที่สุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือน้ำยาทำความเย็น หรือ น้ำยาแอร์ R134a ในตลาดมีการจัดจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อ หลายขนาดถ้ามองจากภายนอกแล้วจะไม่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนนอกจากเมื่อได้ใช้งานไปแล้วถึงสามารถเห็นถึงความแตกต่างได้บ้าง ทั้งในเรื่องระดับความเย็น (เย็นชืด หรือ เย็นฉ่ำ) และคุณภาพของถังและหัววาล์ว ดังนั้น เรื่องของราคาสินค้า จึงเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อปัจจัยหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่มีอัตราความต้องการใช้ค่อนข้างสูง เพราะอากาศที่ร้อนทำให้ระบบแอร์ภายในรถยนต์มีการทำงานที่หนักขึ้นอาจทำให้เกิดการเสียหายหรือการซ่อมก็เป็นได้ จึงทำให้มีการซื้อการขายน้ำยาแอร์เป็นจำนวนมากขึ้น ซึ่งต่างจากหน้าหนาวหรือหน้าฝนซึ่งการใช้ระบบแอร์รถยนต์ในอุณหภูมิที่ต่ำระบบแอร์จึงทำงานไม่หนักมาก จึงไม่ค่อยเกิดการเสียหายหรือการซ่อมของระบบแอร์ สาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำยาแอร์มีการปรับขึ้น-ลง มีดังนี้ 1.ฤดูกาล อุณหภูมิของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันมาก จึงทำให้การใช้น้ำยาแอร์มีการแตกต่างกัน ส่วนในพื้นที่เขตร้อนก็จะมีปริมาณการใช้น้ำยาแอร์เป็นจำนวนมาก ก็เข้าสู่อุปสงค์และอุปทาน ทำให้ราคาน้ำยาแอร์มีการปรับขึ้น-ปรับลง 2.ค่าเงินบาทในส่วนของน้ำยาแอร์จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเข้าดังนั้นการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจึงเป็นส่วนหนึ่งของความผันแปรของราคาน้ำยาแอร์ด้วย 3.ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสินค้า เช่น ค่าภาษีนำเข้า ค่าขนส่ง ฯลฯ ค่าใช้จ่ายนี้จะทำให้มีผลกระทบต่อราคาน้ำยาแอร์ของแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ ณ.เวลาของการนำเข้าสินค้า ณ.ตอนนั้น 4.สภาวะเศรษฐกิจ และ โรคภัยต่างๆ ที่ทำให้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการใช้น้ำยาแอร์ และการผลิต เช่น โรคระบาด Covid-19 ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานั้นทำให้เศรษฐกิจนั้นแย่ลงอย่างเห็นได้ ทำให้ปริมาณการใช้น้ำยาแอร์น้อยลงราคาสินค้าจึงถูกลงตามไป ดังนั้นแนวโน้มราคาน้ำยาในR134a ในช่วงหน้าร้อนจะมีราคาที่สูงมากกว่าปกติ แต่ราคาจะเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะสูงเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น
ข้อดีและคุณสมบัติของน้ำยาแอร์ R134a น้ำยาแอร์ R-134a เป็นที่รู้จัก และใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบแอร์รถยนต์ นอกจากนั้นยังเป็นน้ำยาแอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ที่ทำอุณหภูมิปานกลางและสูง คุณสมบัติของน้ำยาแอร์ R-134a เป็นสารทำความเย็นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำยาแอร์ชนิดอื่นเลยจะมีค่าของน้ำยาแอร์ R-134a ( 100% ) ค่ามวลโมเลกุล (g/mol) : 102.03 ค่าระดับการทำลายโอโซนของสารทำความเย็น (ODP) เป็น 0 ในขณะที่ค่า GWP มีค่า 1430 จะมีแรงดัน ณ.อุณหภูมิ 30 องศา จะเท่ากับ 100-110 Psi จุดเดือด 26 องศา ประเภทของน้ำมันคอมเพรสเซอร์ที่แนะนำ ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นแบบ POE หรือ PAG ซึ่งน้ำมันR-134a เป็นสารประเภท HFC ที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศน้อยมีความคล้ายคลึงกับน้ำยา R-22มาก คุณสมบัติไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟแต่ไม่ควรให้สารหรือแก๊ส โดนหรือสัมผัสกับร่างกายหรือผิวหนังเพราะอาจจะทำให้เกิดการไหม้ได้ หาซื้อได้ง่าย มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในการใช้งาน
5วิธีดูแลแอร์รถยนต์ให้อยู่กับเราไปนานๆ ในปัจจุบันหลายคนใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าการใช้รถประจำทางในการเดินทาง เพื่อความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย เรื่องของการดูแลรถยนต์ของคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกเหนือจากการนำรถเข้าตรวจเช็คสภาพรถยนต์ที่ศูนย์บริการแล้วเราสามารถดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองได้ง่ายๆเพื่อไม่ให้ระบบแอร์เกิดการเสียหายบ่อยครั้งและเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น วันนี้ขอแนะนำ 5 วิธีในการดูแลแอร์รถยนต์ให้อยู่กับเราไปได้นานๆได้ดังนี้ 1.การเปิดแอร์รถยนต์ก่อนสตาร์ทเครื่องรถยนต์ระบบของแอร์รถยนต์จะต้องปิดอยู่ทุกครั้ง และเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ทำการเปิดระบบแอร์รถยนต์ เริ่มจากสวิทซ์พัดลม แล้วถึงกดสวิทซ์ทำความเย็น (A/C) ปรับอุณหภูมิที่พอประมาณ แต่ถ้าภายในรถยนต์มีความร้อนมากควรลดกระจกเพื่อระบายความร้อนแทนการปรับอุณหภูมิที่สูง เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ของระบบแอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไประบบแอร์จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นมากด้วย การปิดแอร์รถยนต์ก่อนถึงจุดมุ่งหมายสัก 5 นาที ควรปิดสวิทซ์ทำความเย็น(A/C) เปิดกระจกพอสมควร เหลือการทำงานของแต่พัดลมแอร์เพื่อทำการไล่ความชื้นและกลิ่นในระบบแอร์สักระยะหนึ่งก่อนถึงจุดหมายเมื่อถึงจุดหมายค่อยปิดพัดลมแอร์แล้วดับเครื่องรถยนต์ 3.การล้างระบบแอร์รถยนต์หรือที่เรียกกันว่าการล้างตู้แอร์ เป็นการทำความสะอาดไม่ให้มีสกปรกอุดตันในระบบแอร์ ที่จะทำให้ระบบแอร์ทำงานหนักมากขึ้น ควรล้างระบบแอร์อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน การทำความสะอาดภายในห้องผู้โดยสารให้สะอาดอยู่อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดกลิ่น , ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปอุดตันของระบบแอร์รถยนต์ทำให้ต้องมีการล้างแอร์บ่อยครั้ง การติดฟิล์มกรองแสงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยลดความร้อนภายในห้องผู้โดยสารรถยนต์ได้เป็นอย่างดี และจะช่วยให้การทำงานของระบบแอร์ทำงานหนักน้อยลง การดูแลระบบของแอร์รถยนต์ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบกำหนดระยะเวลาการตรวจเช็ค ก่อนถึงการเช็คระยะ ระหว่างนั้นเราสามารถดูแลระบบแอร์รถยนต์เองได้และจะทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นควรเลือกซื้อหาอุปกรณ์แอร์รถยนต์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเมื่อมีการซ่อมแซม เปลี่ยนอุปกรณ์ หรือน้ำยาแอร์รถยนต์ ที่ “น้ำยาแอร์ดอทคอม” จำหน่ายน้ำยาแอร์รถ แอร์บ้านทุกชนิด พร้อมอุปกรณ์แอร์ต่างๆมีพนักงานคอยบริการตอบคำถามให้คำแนะนำจากประสบการณ์ด้านการจำหน่ายน้ำยาแอร์มากว่า20ปี โทร094-341-3124 หรือ ทาง Line@namyaair
R134a ใช้กับเครื่องทำความเย็นประเภทไหนบ้าง นอกจากแอร์รถยนต์ เมื่อพูดถึงคุณสมบัติของน้ำยาแอร์ R134a เป็นสารทำความเย็นที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำยาแอร์ชนิดอื่นเลย จะมีค่าของน้ำยาแอร์ของ R-134a(100%) น้ำยาแอร์ R-134a ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟแต่ไม่ควรให้สารหรือแก๊ส โดนหรือสัมผัสกับร่างกายหรือผิวหนังเพราะอาจจะทำให้เกิดการไหม้ได้ น้ำยาแอร์ R134a จะไปอยู่ในส่วนผสมของน้ำยาแอร์ตัวอื่นด้วยเช่นกัน เช่น R-404a , R-407c , R-507a และถูกนำไปใช้งานในแต่ละประเภทแตกต่างกันออกไป ส่วนมากจะคุ้นเคยว่า น้ำยาแอร์ R-134a ใช้สำหรับระบบแอร์รถยนต์ เนื่องจากระบบแอร์รถยนต์มีการใช้น้ำยาแอร์ R-134a เพื่อทำความเย็นมาเป็นเวลายาวนานมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ที่จริงแล้วน้ำยาแอร์ R-134a ได้ถูกนำไปใช้กับระบบอื่น ๆ ด้วยเช่นกันได้แก่ ระบบทำความเย็นทำอุณหภูมิปานกลาง (medium temperature system) น้ำยแอร์ R-134a เหมาะที่สุดสำหรับหน่วยทำความเย็นที่มีอุณหภูมิปานกลางและสูงเมื่อเทียบกับน้ำยาแอร์ตัวอื่น ๆที่ ระบบทำความเย็นอุตสาหกรรมยาใช้เป็นลักษณะแรงดัน (Propellant) น้ำยาแอร์ R-134a ใช้สำหรับเป็นดันยาประเภทในกระป๋อง เช่น สเปรย์บรรเทาอาการปวดเมื่อย อุตสาหกรรมโฟม น้ำยาแอร์ ทำหน้าที่เป็นสารที่ทำให้เกิดการฟูฟองหรือสารที่ทำให้ขยายตัว ซึ่งมีสาร