Category Archives: Uncategorized

แรงดันน้ำยาแอร์ของตู้เย็นและตู้แช่ โดยลักษณะการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าตู้เย็นและตู้แช่ ทั่วๆไป ซึ่งมีอยู่หลายประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะในการใช้งาน เพื่อที่จะรักษาอุณหภูมิความเย็นให้คงที่ ให้เหมาะสมกับสินค้าที่จัดเก็บนั้นๆด้วย  ซึ่งในส่วนประกอบหลักที่สำคัญก็คือ น้ำยาแอร์ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ระบบต่างๆทำงานได้ สำหรับตู้เย็นและตู้แช่ ที่ใช้น้ำยาแอร์ สิ่งที่พบเห็นหลักๆก็จะมีน้ำยาแอร์จำพวก R404a , R507 , R134a , R600 ซึ่งแต่ละชนิดก็มีค่าแรงดันที่แตกต่างกันไป โดยหลักการใช้งานก็จะขึ้นอยู่กับคอมเพรสเซอร์ ว่าใช้กับน้ำยาแอร์ชนิดไหน วัดจากค่าแรงดันและปริมาณการใช้ พื้นที่จัดเก็บ รวมถึงอุณหภูมิที่ต้องการใช้อีกด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ซึ่งน้ำยาแอร์แต่ละชนิดสามารถแยกคุณสมบัติแรงดันได้ดังนี้ R404A เป็นสารผสม (R125+R143+R134a) มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 170-180 Psi   จุดเดือดอยู่ที่   -46.6 C◦ ใช้ในอุณหภูมิติดลบ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ติดไฟ ประหยัดพลังงาน   ถ้าน้ำยาแอร์ในระบบขาดต้องปล่อยทิ้งแล้วเติมใหม่ทั้งหมด โดยสามารถใช้เกจวัดแรงดันในการเช็คระบบให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม R507 เป็นสารผสม (R125+R143) มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 180-190 Psi  

ขับรถลุยน้ำอย่างไรไม่ให้รถพัง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยที่กำลังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประชาชนและยานพาหนะ ช่วงนี้ขับรถต้องระมัดระวัง เพราะทางกรมอุตุนิยมวิทย ได้มีรายงานสภาพอากาศว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน ทำให้มีฝนตกหนักทั่วประเทศ ยิ่งช่วงหลังเลิกงาน ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ฝนตกจึงทำให้การจราจรบนท้องถนนนั้นเริ่มติดขัด และเกิดมีน้ำขังท่วมบนพื้นผิวจราจร ยิ่งทำให้การจารจรติดขัดเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่นมาก เมื่อกล่าวถึงน้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าวันไหนที่มีฝนตกอย่างหนัก อาจจะให้ให้หลายๆคนจำเป็นจะต้องขับรถผ่านน้ำที่ท่วมขังตามจุดต่างๆ และแน่นอนว่ารถยนต์ของเราคงไม่เหมาะกับการขับรถลุยน้ำสักเท่าไหร่ หากคุณหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำขังไม่ได้ วันนี้เรามีวิธีการขับรถลุยน้ำท่วมขังมาแนะนำดังต่อไปนี้ ปิดแอร์รถยนต์ เริ่มต้นจะต้องทำการปิดแอร์รถยนต์ทันที เพราะหากเปิดแอร์ไว้ขณะขับรถยนต์ลุยน้ำที่ท่วมขัง พัดลมแอร์บริเวณหน้ารถยนต์ อาจจะพัดเอาน้ำที่ท่วมขังเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ และจะส่งผลให้รถยนต์ของคุณเกิดดับลงได้ ไม่เร่งเครื่องยนต์ ในขณะที่มีการขับลุยน้ำที่ท่วมขังนั้นจะต้องค่อยๆขับผ่านไปอย่างช้าๆและใจเย็นๆ นอกจากน้ไม่ควรที่จะเร่งเครื่องยนต์ เพราะการที่เราเร่งเครื่องยนต์จะทำให้รอบสูง และจะทำให้อุณภูมิเครื่องยนต์สูงขึ้น จึงทำให้พัดลมระบายความร้อนทำงาน เมื่อใบพัดลมหมุนก็สามารถทำให้พัดน้ำเข้าสู่ห้องเครื่องได้เช่นกัน การใช้เกียร์ต่ำ ในการขับรถยนต์ลุยน้ำท่วมการใช้เกียร์ต่ำขณะขับลุยน้ำท่วม โดยรถยนต์เกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1 หรือ 2 ส่วนรถยนต์เกียร์ออโต้แนะนำให้ใช้เกียร์ L ในการขับผ่าน และควรใช้ความเร็วที่สม่ำเสมอ โดยระดับความเร็จจะต้องไม่เกิน 1,500 – 1,700 รอบ/นาที เว้นระยะห่างในการขับขี่ ขณะที่ขับรถยนต์สวนกับรถยนต์คันอื่น ยิ่งต้องลดความเร็วลง เพราะขณะที่กำลังขับรถยนต์สวนกัน จะทำให้เกิดแรงดันน้ำที่ก่อให้เกิดเป็นคลื่นน้ำได้ หากคุณขับรถยนต์มาในความเร็ว ขณะที่รถยนต์สวนกันนั้น ก็สามารถทำให้น้ำเข้าไปท่วมห้องเครื่องยนต์ได้เช่นกัน

ห้องเย็นคืออะไรมีความสำคัญอย่างไร ห้องเย็น (Cold Room หรือ Cold Storage) คือ ห้องที่ใช้ในการเก็บรักษาอาหารที่ค่อนข้างเสื่อมสภาพเร็วให้อยู่ในอุณหภูมิต่ำ แต่อยู่สูงกว่าจุดเยือกแข็งของอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และอาหารทะเล โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ -3 ถึง -7 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับแต่ละชนิด ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาอาหารแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น การแช่แข็งเนื้อสัตว์ หรือ การแช่เย็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เพื่อช่วยยืดอายุของวัตถุดิบ ทำให้วัตถุดิบคงความสดใหม่และมีความสะอาดอยู่เสมอ โดยในปัจจุบันจะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งห้องเย็นสำเร็จรูป, ห้องเย็นขนาดเล็ก และ ห้องเย็นแบบสั่งทำ      ห้องเย็นประเภทต่าง ๆ ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ห้องเย็นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมทางด้านสินค้าและอาหารต่าง ๆ ที่ต้องการคงความสดใหม่ของวัตถุดิบเอาไว้ให้สามารถใช้การได้ยาวนาน จึงทำให้คลังสินค้าและร้านอาหารมากมายให้ความสนใจที่จะติดตั้งห้องเย็นจากบริษัทรับสร้างห้องเย็น หรือ รับทำห้องเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญกันมากขึ้น โดยห้องเย็นจะสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้ ห้องแช่เย็นเฉียบพลัน (Air Blast Chill Room)เหมาะสำหรับการแช่แข็งสินค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อควบคุมเชื้อแบคทีเรียหรือเพื่อให้เชื้อเอนไซม์ย่อยเนื้อในกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์  โดยสามารถใช้อุณหภูมิได้จนถึงประมาณ 2-10 องศาเซลเซียส  ห้องแช่แข็ง (Freezer

เครื่องปรับอากาศที่บ้านต้องเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหนกัน ?             สารทำความเย็นที่มีอยู่ในระบบทำความเย็นโดยปกติแล้วจะไม่หมดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสารเหล่านี้จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่องภายในระบบของเครื่องปรับอากาศ ยกเว้นกรณีที่มีการรั่วไหล หรือ พบปัญหาในระบบหมุนเวียน ซึ่งอันที่จริงแล้วสารทำความเย็นจะมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี หรือเครื่องปรับอากาศบางเครื่องไม่จำเป็นต้องเติมสารทำความเย็นเลย สังเกตสัญญาณของการรั่วไหลของสารทำความเย็นได้ง่าย ๆ ดังนี้           1.มีลมร้อนมาจากช่องระบายอากาศ           2.ค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ           3.เกิดน้ำแข็งบนสายสารทำความเย็น           4.คอยล์เย็นจนเกิดการแช่แข็ง           5.มีเสียงฟู่ หรือ เป็นฟองออกมาจากท่อสารทำความเย็น แนะนำวิธีการเติมน้ำยาแอร์ การเติมน้ำยาแอร์นั้นทำด้วยตัวเองได้ยาก เนื่องจากจำเป็นต้องมีการตรวจสอบสภาพเครื่องปรับอากาศให้มั่นใจว่าน้ำยาแอร์หมดจากสาเหตุใด มีรอยรั่วในจุดไหนหรือเปล่า รวมไปถึงอุปกรณ์และน้ำยาแอร์ที่ต้องใช้นั้น อาจหาได้ยากสำหรับคนทั่วไป           1. ตรวจสอบว่ามีการเติมน้ำยาแอร์ชนิดไหน           น้ำยาแอร์บางประเภทไม่สามารถเติมผสมร่วมกันได้ โดยเฉพาะน้ำยาแอร์ R410A ที่มีส่วนผสม 2 ชนิด จึงต้องทำการถ่ายน้ำยาชนิดเดิมออกให้หมดก่อนที่จะเติมน้ำยาแอร์ใหม่เข้าไป           2. ตรวจสอบระบบท่อน้ำยาแอร์           น้ำยาแอร์เป็นของเหลวที่มีอายุการใช้งานยาวนานเพราะฉะนั้นหากเกิดสถานการณ์ที่น้ำยาแอร์หมด ควรที่จะต้องมีการตรวจสอบระบบการทำงาน และหารอยรั่วเพื่อทำการซ่อมก่อน โดยวิธีตรวจสอบที่ช่างนิยมใช้กันนั้นก็คือการใช้น้ำสบู่ลูบไปตามท่อ หากจุดไหนรั่วก็จะเกิดฟองสบู่ขึ้น           3. ดูดอากาศและความชื้นออกให้หมด          

สารทำความเย็นสำหรับตู้แช่ ห้องเย็น              น้ำยา R404a ถือว่าเป็นสารทำความเย็นที่อยู่คู่กับอุตสาหกรรม ห้องเย็น และเครื่องทำความเย็น มามากกว่าสามทศวรรษ โดยเป็นสาร HFC ที่เป็นตัวแทนของ R22 และ R502  เนื่องจากคุณสมบัติของ R404a ทำให้เป็นสารทำความเย็นที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมหลายอุณหภูมิ และมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม  แต่ด้วยข้อกังวลของค่า GWP ที่สูงถึง 3,922 สารทำความเย็น HFC จะมีการลดการใช้และการผลิต และถูกทดแทนด้วยสารทำความเย็นประเภท HFO หรือสารทำความเย็นที่มี GWP ต่ำกว่า ซึ่งได้ถูกเริ่มใช้งานในประเทศไทยกันแล้วอย่างR448a หากคุณอยู่ในธุรกิจที่ต้องใช้ระบบทำความเย็น และมีข้อกังวลเกี่ยวกับสารทำความเย็นที่ใช้อยู่ วันนี้จะมาเปรียบเทียบระหว่างสารทำความเย็นR404a และR448a เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม               ทำความรู้จักR448a เป็นสารทำความเย็นซึ่งจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ HFO Blends คือส่วนผสมซีโอโทรปิกที่ประกอบด้วย HFO 2 ตัว (R1234ze 7% และ R1234yf 20%) และสารทำความเย็น HFC 3 ตัว

ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์รถยนต์ที่ใช้ในปัจจุบัน               ปัจจุบันมีความพยายามที่จะทำให้รถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ได้มีการพัฒนาการระบบใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในส่วนระบบปรับอากาศของรถยนต์ และนำไปสู่การวิเคราะห์รายละเอียดของระบบปรับอากาศ พยายามที่จะคิดค้นการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในระบบปรับอากาศของรถยนต์จะ ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากภายในห้องโดยสารและระบายออกสู่ภายนอกแล้วทำให้คนโดยสารเกิดความเย็น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อใช้โดยสารรถยนต์ เราจึงควรรู้จักเกี่ยวกับน้ำยาแอร์ที่รถยนต์เราใช้ในชีวิตประจำวันไว้บ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้รถยนต์               น้ำยาแอร์รถยนต์มีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน คือ น้ำยา R134a และ R410A                        -R134a เป็นสารทำความเย็นที่ใช้กันมานาน มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นสูง แต่มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน (GWP) อยู่บ้าง               -R410A เป็นสารทำความเย็นรุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูงกว่า R134a และมีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน น้อยกว่า               การเลือกใช้น้ำยาแอร์รถยนต์  ควรคำนึง รายละเอียดดังต่อไปนี้ ชนิดของแอร์รถยนต์ ซึ่งแอร์รถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะรองรับการใช้น้ำยาแอร์ที่แตกต่างกัน สภาพอากาศ ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน แนะนำให้ใช้น้ำยาแอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เช่น R410A เป็นต้น ในเรื่องของราคา น้ำยาแอร์รถยนต์แต่ละชนิดมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ หรือแหล่งที่มาของน้ำยาแอร์