การดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม จากสถานการณ์ของอุทกภัยในประเทศไทยที่กำลังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง ต่อประชาชน และยานพาหนะที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหนีภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรงได้ทัน รถที่จมน้ำคือสิ่งที่แย่ที่สุด และต้องหาทางนำกลับมาซ่อมแซมหลังจากน้ำลดหรือไม่ก็ขายทิ้ง สภาวะดังกล่าวมีความรุนแรงและกำลังเกิดขึ้นกับพี่น้องคนไทยเราที่จะต้องรับมือกับพายุ ซึ่งกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้ ต้องใช้เวลากันอีกนานนับเดือนเลยทีเดียว หลังจากที่รถยนต์ถูกน้ำท่วม อย่าพยายามสตาร์ทรถทันที เพราะอาจจะทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายจากน้ำที่เข้าไปในระบบต่างๆ เช่น ห้องเผาไหม้หรือระบบไฟฟ้า การที่พยายามสตาร์ทรถในขณะที่ยังมีน้ำหรือความชื้นอยู่ในระบบจะทำให้เครื่องเสียหายอย่างถาวร ควรปล่อยให้รถแห้งและตวจสอบความเสียหายในส่วนต่างๆก่อน หากน้ำท่วมสูงเข้าถึงภายในตัวรถยนต์ จะต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม สิ่งที่ต้องเช็คหลังน้ำท่วมรถยนต์ ก่อนกลับมาใช้งานใหม่ ตรวจเครื่องยนต์ ตรวจดูเครื่องยนต์ว่าไม่มีเศษอะไรติดอยู่ที่ตัวเครื่อง จากนั้นใช้ไดร์เป่าผาเป่าเพื่อไล่ความชื้นหรือสเปรย์ไล่ความชื้นฉีดให้ทั่วรวมถึงบริเวณใต้ท้องรถและล้อ ระบบเบรค สำหรับรถยนต์จะมีระบบของเบรค 2 ชนิด คือ ดิสก์เบรกคกับ ดรัมเบรค แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคแบบไหน ก็ไม่ถูกกับน้ำอยู่ดี น้ำกับโลหะเมื่อมาเจอกัน จำทำให้โลหะเกิดสนิม ทำให้เบรคติดขัด ส่วนน้ำมันเบรคเกิดความชื้น ทำให้เบรคลื่น เบรคไม่อยู่และเกิดอุบัติเหตุได้ วิธีการไล่ความชื้นออกจากเบรค หลังจากที่ต้องขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง สิ่งที่ควรทำเสมอคือ การเลียเบรค เพื่อไล่ความชื้นในผ้าเบรคออก ทำได้โดยการขับรถช้าๆ แล้วใช้เท้าแตะเบรกเบาๆค้างเอาไว้เป้นระยะทางประมาณ 100 เมตร เพื่อให้ผ่าเบรคเสียดสีกับจานจนเกิดความร้อนเป็นการช่วยเร่งการระเหยของความชื้นออกจากผ้าเบรคทำให้ระบบเบรคกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลูกปืนล้อ โดยปกติแล้ว ลูกปืนล้อ หากถูกแช่น้ำนานๆ จะต้องทำใจเนื่องจากลูกปืนจะพังเร็ว สังเกตอาการได้จากเสียงลูกปืนล้อจะดังขึ้นเวลาวิ่งความเร็วสูงๆ