สัญญาณเตือนบอกให้รู้ว่าตู้เย็นของคุณน้ำยารั่ว

สัญญาณเตือนบอกให้รู้ว่าตู้เย็นของคุณน้ำยารั่ว ในปัจจุบันสารทำความเย็น หรือน้ำยาทำความเย็นเป็นส่วนประกอบสำคัญของตู้เย็นทั่วไป การทำความเย็นของตู้เย็นไม่ต่างกับในเครื่องปรับอากาศ โดยคอมเพรสเซอร์ จะทำหน้าที่อัดน้ำยาทำความเย็น หรือสารทำความเย็นในสภาวะเป็นก๊าชให้มีความดันสูง และเปลี่ยนสถานะไปเรื่อยๆ จนพัดลมของคอยล์เย็นจะกระจายลมเย็นให้แก่สารทำความเย็นไหลเวียนไปสร้างความเย็นภายในตู้เย็น และหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ในระบบปิด ซึ่งจะส่งผลให้น้ำยาแอร์ หรือสารทำความเย็น ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน การทำความเย็นของตู้เย็นจะได้รับการออกแบบมาให้เป็นระบบปิด แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรั่วไหลของสารทำความเย็นขึ้นจากหลายสาเหตุ ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อความสดของอาหาร หรือวัตถุดิบในตู้เย็นเท่านั้น แต่ยังอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณอีกด้วย สัญญาณเตือนที่บอกให้รู้ว่าตู้เย็นของคุณน้ำยารั่ว มีดังนี้ วัตถุดิบหรืออาหารในตู้เย็น ไม่มีความเย็น หากตู้เย็นของเรามีอาการรั่วไหลของสารทำความเย็น น้ำดื่มหรือน้ำอัดลมของเรา เวลานำมาดื่มอาจจะไม่เย็นชื่นใจเหมือนเคย เนื่องจากสารทำความเย็นรั่ว เครื่องจึงไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง จึงส่งผลให้วัตถุดิบหรืออาหารในตู้เย็นของคุณไม่เย็นหรือไม่สดเท่าที่ควรจะเป็น เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ในสารทำความเย็นบางประเภท มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างเช่นกลิ้นอับ โดยเฉพาะถ้าตู้เย็นที่อยู่ในพื้นที่แคบ อย่างเช่น คอนโด เป็นต้น หากมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างไม่มีสาเหตุอื่น พร้อมสัญญาณจากข้างต้นแล้ว อาจจะเป็นผลมาจากน้ำยาทำความเย็นซึมก็เป็นได้ คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก เมื่ออุณภูมิของตู้เย็นเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลให้คอมเพรสเซอร์และคอนเดนเซอร์ทำงานโดยใช้ฟรีออนเพื่อช่วยลดอุณหภูมิลง สู่ระดับที่ต้องการ เวลาปกติเราอาจจะได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์ ทำงานไม่ตลอดเวลา แต่เมื่อเกิดการรั่วไหลของน้ำยาทำความเย็น มอเตอร์จะถูกบังคับให้ทำงานเป็นเวลานานขึ้น เพื่อชดเชยปริมาณสารทำความเย็นที่หายไป ทำให้มอเตอร์รับภาระมากกว่าศักยภาพ หรือประสิทธิภาพของตัวเอง นอกจากอาหารจะไม่เย็นแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหากับส่วนอื่นๆ ของตู้เย็นได้อีกด้วย ค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติ

ปัญหาสารทำความเย็นอาจเกิดขึ้นในระบบทำความเย็น และระบบปรับอากาศ

ปัญหาสารทำความเย็นอาจเกิดขึ้นในระบบทำความเย็น และระบบปรับอากาศ การทำงานของระบบทำความเย็นโดยทั่วๆไป ถ้ามีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ หรือน้ำยาทำความเย็นไม่ได้มาตราฐานหรือใช้ผิดประเภทแล้ว  อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้ เช่น 𝟭. การรั่วไหล  การรั่วไหลของสารทำความเย็น สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ มีส่วนประกอบเสียหาย หรืออุปกรณ์เสื่อมสภาพ การรั่วไหลไม่เพียงแต่ลดประสิทธิภาพการทำความเย็นของระบบ แต่ยังก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นสารทำความเย็นที่มี GWP สูง หรือมีค่า ODP ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม   สัญญาณของการรั่วไหลของสารทำความเย็น คือ อุณหภูมิไม่เย็นเท่าที่ควร หรือมีการไหลของอากาศน้อย ในการไหลเวียนของอากาศต่ำอาจแก้ไขได้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ หรือทำความสะอาดทุกๆ 1-3 เดือนระหว่างการใช้งานระบบ ระบบทำงานสั้น (เปิดและปิดอย่างรวดเร็ว) หากเกิดกรณีนี้หลังการติดตั้งใหม่ๆ อาจหมายถึงระบบทำความเย็น/ปรับอากาศมียูนิตที่ใหญ่เกินไปสำหรับความต้องการ หรือพื้นที่ของคุณ ค่าใช้จ่ายทางพลังงานพุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล สามารถเปรียบเทียบกับค่าพลังงานในเดือนนี้ของปีที่แล้ว หากค่าบริการปัจจุบันสูงขึ้นมาก แสดงว่ามีบางอย่างที่ทำให้ระบบทำงานไม่มีประสิทธิภาพ คุณได้ยินเสียงฟู่ หรือมีฟองอากาศปรากฏขึ้นในระบบ หมายความว่านั่นคือเสียงไอเสียของสารทำความเย็น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในรูปแบบของเหลวหรือก๊าซ มีน้ำแข็งก่อตัวบนคอยล์หรือท่อส่งสารทำความเย็น ปัญหาการรั่วไหลของสารทำความเย็น เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรปล่อยทื้งไว้นาน โดยไม่ดำเนินการแก้ไข เพราะการรั่วไหลของสารทำความเย็น ไม่เพียงทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และต้นทุน เท่านั้น แต่การใช้ระบบทำความเย็นที่มีสารทำความเย็นอยู่ในระบบต่ำ ยังส่งผลให้คอมเพรสเซอร์เสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด

ดูแลรถยนต์อย่างไรในหน้าฝน

ดูแลรถยนต์อย่างไรในหน้าฝน ประเทศไทยแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู จะมีฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน คือระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี ประเทศไทยมีเมฆมาก จะพบกับร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทย จึงทำให้มีฝนตกชุก เมื่อเข้าสู่หน้าฝน หลายท่านคงไม่ค่อยถูกกับหน้าฝนเท่าไหร่ เพราะพอฝนตกมาทีไร รถก็จะติด แถมรถยนต์ของเราก็สกปรกอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ถ้ามีน้ำรอการระบายบนท้องถนน ก็จะทำให้รถยนต์ของเราเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นในหน้าฝนนี้ เราจึงควรจะเพิ่มการดูแลรถยนต์ของเราเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้ ตรวจเช็คดูซีลยางขอบประตู ซีลยางขอบประตูรถนั้นทำหน้าที่ปิดช่องว่างระหว่างรอยขอบ ประตู สามารถกันลม รวมถึงการรั่วซึมของน้ำฝนที่จะเข้ามาในรถด้วย สำหรับตัวซีลยางขอบประตูนั้นควรตรวจเช็คทุกๆ 4เดือน ตรวจดูว่าตัวซีลยางมีรูปทรงที่บิดเบี้ยวอยู่หรือไม่ เมื่อใช้มือบีบจะต้องไม่นิ่มไป หรือแข็งไป ตรวจสอบรอยแตก หากมีสภาพที่ไม่เหมาะสม ควรรีบทำการเปลี่ยนทันที เพราะหากเกิดการรั่วซึมจะทำให้ภายในห้องโดยสารเกิดความเสียหาย จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่บานปลายได้ รถยนต์ถ้าลุยฝนให้รีบล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไปก่อน แล้วค่อยเช็ครถยนต์ด้วยผ้าเช็ดรถ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดคราบรอยหยดน้ำเกาะฝั่งแน่นขึ้น และที่สำคัญ ไม่ควรเช็ดรถทันทีหลังผ่านการตากฝนมา เพราะน้ำฝนมักปนเปื้อนฝุ่น อาจจะทำให้เกิดคราบสกปรกติดรถหรือเกิดรอยข่วนแมวได้ และจะทำให้เกิดผลเสียต่อสีรถยนต์ด้วย เช็คใบปัดน้ำฝน เป็นสิ่งที่ใช้บ่อยสุดในช่วงหน้าฝน จึงควรตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน ว่ามีสภาพที่ดี อยู่หรือไม่ หากระหว่างใช้งานแล้วมีเสียงดัง แสดงว่าตัวยางมีการแข็งตัว หรือเมื่อใช้แล้วมีรอยเส้นตามแนวปัด

หลักการทำงานของระบบทำความเย็น ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง 

หลักการทำงานของระบบทำความเย็น ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง  ในเรื่องของวัฏจักรการทำความเย็นแบบอัดไอทำให้เกิดความเย็น ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำความเย็น และมีลักษณะเหมือนกันคือทำให้สารซึ่งเป็นตัวกลางในการทำความเย็น (Refrigerant)เปลี่ยนสถานะด้วยการใช้ความร้อนแฝง เพื่อให้สารที่เป็นตัวกลางในการทำความเย็นเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอ ส่งผลให้บริเวณนั้นมีอุณหภูมิลดลง ซึ่งหมายความว่าบริเวณนั้นจะมีความเย็นเกิดขึ้นเริ่มต้นกระบวนการทำความเย็นจากการดูดความร้อนด้วย Evaporator หรือคอยล์เย็น ซึ่งความร้อนที่สารทำความเย็นดูดเข้ามานี้จะทำให้น้ำยาสารทำความเย็นเกิดความร้อนและเปลี่ยนสภาพจากของเหลวกลายเป็นไอ กระบวนการนี้สารทำความเย็นจะดูดซับเอาความร้อนจากบริเวณโดยรอบ มาจากวัตถุต่างๆ ที่อยู่ใกล้คอยล์เย็นโดยวิธีการนำความร้อน การพาความร้อน หรือการแผ่รังสีความร้อนทำให้สารทำความเย็นนี้มีอุณหภูมิสูงที่ความดันต่ำ    สารทำความเย็นที่มีอุณหภูมิสูงสถานะไอนี้จะถูกส่งต่อไปยัง Compressor หรือเครื่องอัดโดยจะอัดให้มีความดันสูงขึ้นก่อนส่งต่อไปที่ Condenser หรือคอยล์ร้อนเพื่อระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็นและควบแน่นให้สารทำความเย็นในสถานะที่เป็นไอเปลี่ยนกลับมาเป็นของเหลวอีกครั้งซึ่งก่อนส่งต่อไปที่ Expansion Valve วาล์วลดความดันเพื่อลดความดันของสารทำความเย็นให้ต่ำลง เพื่อให้สารทำความเย็นดดังกล่าวพร้อมที่จะระเหยตัวที่อุณหภูมิต่ำ ณ อุปกรณ์ ถัดไปซึ่งก็คือคอยล์เย็นและจะวนการทำงานไปแบบนี้เรื่อยๆ ตามวัฏจักรทำความเย็นแบบอัดไอ สารทำความเย็นในระบบทำความเย็น ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง  สารทำความเย็นที่ใช้ทั่วไปสามารถแบ่งตามคุณสมบัติทางเคมีได้ 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่ สารกลุ่ม CFC (Chlorofluorocarbon) มีส่วนประกอบของ คลอรีน   ฟลูออรีนและคาร์บอน สารทำความเย็นที่อยู่ในกลุ่มนี้ เช่น R11, R12 มีความปลอดภัย และไม่เป็นพิษแต่การที่กลุ่มสาร CFC มีคลอรีน เมื่อเกิดการรั่วไหลจะมีผลกับการไปลด โอโซน ในบรรยากาศ

น้ำยาแอร์ที่ใช้กับรถห้องเย็นมีอะไรบ้าง

น้ำยาแอร์ที่ใช้กับรถห้องเย็นมีอะไรบ้าง ปัจจุบันนี้รถยนต์ตามท้องถนนในประเทศมีอยู่มากมายหลายชนิดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน จะมีทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์โดยสาร รถยนต์บรรทุก รถพ่วง รถตู้ รวมทั้งรถกระบะที่ใช้ในการขนส่งสินค้า เป็นต้น ในที่นี้มาดูกันว่าในส่วนขอรถห้องเย็นที่มีการใช้งานนั้น ใช้น้ำยาแอร์ชนิดไหนบ้างและใช้ในปริมาณเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกรถกะบะ รถตู้ รถบรรทุกต่างๆที่มีการต่อเติมดัดแปลงเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการจัดเก็บสินค้าที่ต้องอยู่ในอุณหภูมิความเย็นคงที่ เพื่อจัดส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วตามเป้าหมายที่กำหนด รถห้องเย็นนั้นส่วนมากแล้วจะเป็นรถที่เอาไว้จัดส่งสินค้าซึ่งจะต้องรักษาอุณหภูมิความเย็นให้คงที่ เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าให้มีความสด และสภาพคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงในระหว่างการขนส่ง อย่างเช่นสินค้าจำพวก อาหารแช่แข็ง อาหารแช่เย็น ผัก ผลไม้ อาหารซีฟู้ด เครื่องดื่ม นมสด ยารักษาโรค เป็นต้น และน้ำยาแอร์ที่ใช้ส่วนมากหลักๆคือ น้ำยา R134a  , R404A และR507 ซึ่งแยกได้ดังนี้ R134a เป็นสารทำความเย็นเชิงเดี่ยว มีค่าแรงดัน ที่อุณหภูมิ 30C◦ อยู่ที่ 100-110 Psi จุดเดือดอยู่ที่ -26 C◦   ใช้ในรถห้องเย็น รวมถึงห้องโดยสารด้านหน้าด้วย สามารถทำอุณหภูมิติดลบ แต่จะไม่เย็นจัด ในปัจจุบันมีการใช้ R404AและR507แทน   ถ้าเกิดการรั่วหรือน้ำยาแอร์ในระบบขาดสามารถเติมเพิ่มได้เลย

น้ำยาแอร์ 134a เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสม ประหยัดและคุ้มค่า

น้ำยาแอร์ 134a เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสม ประหยัดและคุ้มค่า รถยนต์เป็นอีกปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถเก๋ง หรือรถมอเตอร์ไซด์ ก็ล้วนแต่เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง แต่บางท่านอาจมองข้ามไปถึงความสำคัญของ เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ เราจะมาทำความรู้จัก การเลือกซื้อ น้ำยาแอร์ 134a ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำความเย็นให้รถยนต์เราเย็นสบาย อากาศปลอดโปร่งภายในรถยนต์ของเรา ในการเลือกซื้อน้ำยาแอร์ 134a มีความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน และเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยต่ออายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น เราจะต้องเลือกซื้อน้ำยาแอร์ 134a ที่มี อาทิเช่นคุณสมบัติ ตรงตามที่เราต้องการ จุดเดือด องค์ประกอบทางเคมี แรงดันควบแน่น ต่อมา ก็เป็นมาตรฐานของกระบวนการผลิต และสุดท้ายคือ ความพึงพอใจของเรา รวมถึงราคาที่คุ้มค่า วิธีการเลือกซื้อ น้ำยาแอร์ 134a ให้เหมาะสม ประหยัดและคุ้มค่า ควรมีลักษณะสำคัญดังต่อไปนี้ น้ำยาแอร์ ต้องมีความคงตัวทั้งอุณหูมิและสารประกอบทางเคมีที่คงตัว การทำงานเข้ากันได้ดีกับน้ำมันเครื่องยนต์ มีแรงดันควบแน่นปานกลาง มีอุณหภูมิจุดเดือดต่ำ ความดันในการกลายเป็นไอสูงกว่าความดันบรรยากาศ ปริมาตรจำเพาะ เมื่อเปลี่ยนสถานะเป็นก๊าซ ค่อนข้างต่ำ คุณสมบัติพิเศษที่ไม่ควรมองข้ามไป ในการเลือกซื้อน้ำยาแอร์ 134a  ดังนี้ แห่งที่มา

น้ำยาแอร์บ้านแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร

น้ำยาแอร์บ้านแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร โดยทั่วไปสภาพอากาศเมืองไทยอยู่ในเขตร้อน ดังนั้นระบบเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เพื่อคลายร้อนกัน และเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ไม่ว่าจะบ้าน ตึก อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่ในห้องน้ำบางที่ยังต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ในบางช่วงเวลาโดยเฉพาะในฤดูร้อนของเมืองไทย เมื่อระบบเครื่องปรับอากาศไม่เย็น สิ่งแรกที่นึกถึง ก็จะต้องคิดว่าเป็นเพราะน้ำยาแอร์ หมดแน่นอน น้ำยาแอร์ที่ใช้ในระบบทำความเย็นก็มีการพัฒนาไปด้วย เนื่องจากเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน การทำลายชั้นบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม ความทันสมัยของเทคโนโลยีใหม่ๆของเครื่องปรับอากาศ จากจุดเริ่มต้นที่เราใช้เครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยาแอร์บ้าน R22 แต่เมื่อใช้ไปจะมีผลต่อการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ จึงได้มีการพัฒนาเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำยาแอร์ R410A แต่น้ำยาแอร์ R410A ยังทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และ เครื่องปรับอากาศที่พัฒนาต่อจากที่ใช้น้ำยาแอร์ R410A คือ R32 คุณสมบัติไม่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศโลก และก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนน้อยกว่าการใช้น้ำยาแอร์ R410A ถึง 3 เท่า ในที่นี้เราจะกล่าวถึงความแตกต่างของน้ำยาแอร์บ้านแต่ละชนิดดังนี้ น้ำยาแอร์ R32 เป็นน้ำยาแอร์ใหม่ล่าสุด  ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และ การเกิดสภาวะโลกร้อนน้อยกว่า R 410A หลายเท่า  จุดเดือดของน้ำยา R32 มีค่าต่ำ  ทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์  ทำงานเบา มีประสิทธิภาพการทำความเย็นได้สูง 

ก่อนติดตั้งระบบ ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

ก่อนติดตั้งระบบ ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ในประเทศไทย มีสภาพภูมิอากาศที่มีความร้อน ยิ่งในปัจจุบันอากาศร้อนมาก ธุรกิจต่างๆก็อาจได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย โดยในที่นี้ จะมาพูดถึงการดำเนินการธุรกิจเกี่ยวกับระบบ ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในการรักษาคุณภาพและยืดอายุของสด อย่างเช่น เนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเล ผัก ผักไม้ รวมถึงสินค้าประเภทดอกไม้ เจ้าของธุรกิจจึงควรพิจารณาสร้าง ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง สำหรับเก็บสินค้า โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของสินค้านั้น ๆซึ่ง ประเภทของห้องเย็น ถูกแบ่งออกดังนี้ ห้องแช่แข็งลดอุณหภูมิสินค้าด้วยลม(Air Blast Freezer Room) ห้องแช่แข็งเก็บรักษาสินค้า(Cold Storage Room หรือ Freezer Room) ห้องแช่เย็นลดอุณหภูมิสินค้าด้วยลม(Air Blast Chill Room) ห้องเย็นพักสินค้า(Anti Room) ห้องแช่เย็น(Chilled Room) ซึ่งหากจะเลือกใช้ ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง ประเภทไหน ควรขึ้นอยู่กับความต้องการนำไปใช้งานด้วยเช่นกัน เลือกติดตั้งกับผู้ที่เชี่ยวชาญ ระบบ ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง การตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการติดตั้ง ระบบ ห้องเย็น ห้องแช่แข็งควรพิจารณาถึงความเชี่ยวชาญ

แนวทางป้องกันอันตรายจากสารทำความเย็น

แนวทางป้องกันอันตรายจากสารทำความเย็น สาเหตุของการรั่วไหลสารทำความความเย็น  การรั่วไหลของสารทำความเย็นส่วนใหญ่มักเกิดจากการชำรุดของอุปกรณ์ หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว ทำให้สารทำความเย็นที่ทำงานอยู่ภายในอุปกรณ์ทำความเย็นรั่วไหลออกตามจุดที่มีการผุกร่อน นอกจากนี้การรั่วไหลยังเกิดขึ้นได้จากการติดตั้งอุปกรณ์วาล์วกันกลับผิดทาง (Check Valve) ทำให้ของเหลวในระบบเกิดการขยายตัวจนเกิดการรั่วไหล การแก้ไขเมื่อเกิดการรั่วไหลของสารทำความเย็น  เมื่อพบว่ามีการรั่วไหลของสารทำความเย็น ควรทำการป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายหรือถูกผิวหนัง และทำตามข้อควรปฏิบัติดังนี้ – หากเกิดการรั่วในด้านดูดให้เดินเครื่องเพื่อให้เกิดแรงดันในระบบต่ำที่สุด หรือให้กลายเป็นสุญญากาศ -หากเกิดการรั่วทางด้านส่งให้หยุดเดินเครื่องแล้วทำการปิดวาล์วสกัด -ในบริเวณที่มีการรั่วของสารให้ใช้ผ้าหรือกระสอบซับน้ำคลุมเอาไว้ ก่อนทำการฉีดน้ำเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจาย -ทำการระบายอากาศในบริเวณโดยรอบที่มีการรั่วไหลให้เร็วที่สุด ถ้าหากเป็นพื้นที่ปิดให้ใช้สเปรย์ฉีดน้ำในบริเวณที่รั่วไหล -ทำการซ่อมชั่วคราวเพื่อใช้งาน และในขณะที่ทำการซ่อมต้องเช็คให้ดีว่ามีสารทำความเย็นค้างอยู่ภายในท่อหรือไม่   ​มาตรการป้องกันการรั่วไหลของสารทำความเย็น -ซ่อมบํารุง และควบคุมการทํางานของห้องเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี -โรงงานที่มีห้องเย็นขนาดใหญ่จะต้องมีแผนงานในแต่ละช่วงเวลา ในการตรวจสอบห้องเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งในส่วนของอุปกรณ์และระบบท่อ ที่อาจจะทําให้เกิดอันตรายหากชํารุด -มีแผนฉุกเฉินในกรณีเกิดอุบัติเหตุ และสื่อสารให้ทุกคนรับทราบการทํางานในสภาพพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ -จัดหาชุดป้องกันความเย็นที่เหมาะสม -จัดให้มีห้องพักที่มีสภาพอากาศปกติ กับน้ำอุ่น สําหรับพักเบรก ส่วนระยะเวลาในการพักขึ้นอยู่กับ อุณหภูมิของห้องเย็นและลักษณะงาน การบาดเจ็บจากความเย็น อันตรายจากน้ำแข็งที่เกิดขึ้น เมื่อคนเข้าไปทำงานในห้องเย็นเป็นเวลานานๆ ความเย็นจัดก็จะสามารถทำให้เส้นเลือดฝอยตีบเล็กลง ส่วนใหญ่พบมากบริเวณปลายมือ , ปลายเท้า , จมูก , ใบหู เป็นต้น ถ้าอาการเพียงเล็กน้อย ก็จะมีอาการปรากฏบริเวณใบหู , จมูก ,

การดูแลแอร์รถยนต์เก่าอย่างไร ให้แอร์รถยนต์เย็นฉ่ำเสมือนได้รถยนต์ใหม่

การดูแลแอร์รถยนต์เก่าอย่างไร ให้แอร์รถยนต์เย็นฉ่ำเสมือนได้รถยนต์ใหม่ สังคมไทยในปัจจุบัน มีการใช้รถยนต์ในการเดินทาง อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในรถยนต์ ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศภายในรถยนต์ของเราให้กลายเป็นสวรรค์ หรือนรกได้ภายในพริบตา หากใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ นั้นคือ เครื่องปรับอากาศในรถยนต์นั้นเอง สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานมานานปัญหาที่มักเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ อาการ รถยนต์เก่าแอร์ไม่เย็น ที่ดูเหมือนว่าจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ แอร์รถยนต์ก็ไม่เย็นปกติ ไปเติมน้ำยาแอร์หรือทำความสะอาดแล้วก็ยังไม่เย็นเหมือนเดิม พอวิ่งๆ ไปเมื่ออากาศภายนอกร้อนจัด แอร์รถยนต์ก็ตัดอีก รถยนต์เก่าแอร์ไม่เย็น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเกิดขึ้นอย่างแน่นอน อาจเป็นเพราะการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ในชุดแอร์รถยนต์ที่ทำให้การทำความเย็นของระบบทั้งหมดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นปัญหาที่คนใช้รถยนต์ทุกคนต่างพบเจอ จากที่กล่าวมาทั้งหมด เรามาทำความรู้จักกับระบบแอร์รถยนต์ พร้อมวิธีการดูแลแอร์รถยนต์คันเก่า หากเจอปัญหาของแอร์ไม่เย็น ให้รถยนต์ของเราในทุกการเดินทางที่ปลอดภัย การดูแลแอร์รถยนต์ ทำได้ดังนี้ สตาร์ทรถยนต์ทุกครั้งก่อนเปิดแอร์ เมื่อรถยนต์เก่าเราถูกใช้งานมานาน อาจมีปัญหาในส่วนของสายไฟหรือจุดเชื่อมต่อต่างๆ ทำให้เกิดอาการช็อตขึ้นมาได้ และการทำงานของแอร์รถยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนเปิดแอร์ เป็นการช่วยให้การจ่ายไฟไปแต่ละจุดได้อย่างเต็มกำลังและทำให้เกิดปัญหาการสปาร์คไฟน้อยมาก ไม่เปิดแอร์เย็นมากเกินไป การเปิดแอร์รถยนต์ที่อุณหภูมิที่พอเหมาะ เลือกระดับพัดลมให้กำลังแอร์ที่พอดี จะเป็นการยืดอายุการทำงานของแอร์รถยนต์ออกไปได้มากกว่าการเปิดแอร์รถยนต์แบบเต็มกำลัง เตรียมรับมือกับอากาศที่ร้อนภายในรถยนต์อย่างมีขั้นตอน เนื่องด้วยอากาศที่ร้อนจัด เราจะทำการเปิดแอร์รถยนต์ให้แรงที่สุดและเย็นที่สุดในทันที ด้วยหวังจะให้อากาศเย็นไล่ความร้อนออกไป แต่ไม่รู้เลยว่าวิธีที่ทำนั้นผิด เพราะโดยหลักการไหลเวียนของอากาศ อากาศเย็นจะไหลเข้าหาอากาศร้อนอยู่เสมอ นั้นเองเป็นเหตุให้แอร์รถยนต์ทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีการสูญเสียอากาศเย็นออกไปอย่างรวดเร็ว วิธีที่ดีที่สุด คือ