เคล็ดลับ เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ อย่างไรให้คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน เครื่องปรับอากาศ ทั้งระบบปรับอากาศที่ใช้กับพื้นที่ขนาดใหญ่ในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรม และเครื่องปรับอากาศแบบปกติหรือแอร์บ้าน จะมีหลักการทำงานคล้ายๆ กันหรือแตกต่างกันไม่มาก แต่การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และประหยัดพลังงาน ส่วนจะมีเคล็ดลับอย่างไร น้ำยาแอร์.com มีความรู้มาแนะนำอีกเช่นเคย ครับ เคล็ดลับ เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ อย่างไรให้คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน การทำงานของแอร์หรือเครื่องปรับอากาศที่หลัก ๆ มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ เครื่องปรับอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม และเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ที่ใช้ภายในบ้าน จะมีระบบการทำงานไม่แตกต่างกันมากนัก อาทิ แอร์บ้านจะให้สารทำความเย็นวิ่งผ่านคอยล์เย็นเพื่อทำให้เกิดลมเย็น ส่วนระบบปรับอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ จะให้สารทำความเย็นทำน้ำให้เย็นก่อน แล้วจึงส่งน้ำเย็นไปหา ท่อส่งลม เพื่อผลิตอากาศเย็นเข้าไปยังพื้นที่ที่ต้องการทำความเย็น ส่วนการเลือกเครื่องปรับอากาศทั้ง 2 ประเภท ให้ใช้งานได้คุ้มค่า และประหยัดพลังงาน มีเคล็ดลับ ดังนี้ เลือกประเภทและรูปแบบของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งาน แม้ว่าแอร์หรือเครื่องปรับอากาศที่ใช้กันทั่วไปหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ แอร์อุตสาหกรรมและแอร์บ้าน แต่แอร์ทั้ง 2
Category Archives: น้ำยาแอร์บ้าน
แอร์โรงงานอุตสาหกรรม กับ แอร์บ้าน ต่างกันอย่างไร แอร์หรือระบบปรับอากาศ มีความสำคัญและจำเป็นต่อการใช้งานในอาคาร บ้านพัก การเก็บรักษาผลผลิต จำเป็นต่อโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตอาหาร และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ แอร์ที่นิยมใช้กันทั่วไปจึงมีหลายประเภทและหลายขนาด อีกทั้งการเลือกใช้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน นอกจากการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย แอร์โรงงานอุตสาหกรรม กับ แอร์บ้าน ต่างกันอย่างไร แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ แอร์ใช้สำหรับพื้นที่ทำความเย็นที่มีขนาดเล็ก เช่น ใช้ในห้อง บ้านพัก อาคาร ร้านค้า หรือสำนักงาน และแอร์ที่ใช้กับพื้นที่ทำความเย็นที่มีขนาดใหญ่ เช่น แอร์ห้าง หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งคุณสมบัติของแอร์ และลักษณะการใช้งานก็จะแตกต่างกัน ดังนี้ แอร์โรงงานอุตสาหกรรม แอร์โรงงานอุตสาหกรรม หรือ แอร์ที่ใช้กับพื้นที่ทำความเย็นขนาดใหญ่ เป็นแอร์ที่มีระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ โดยที่มีขนาด BTU มากกว่า 150,000 ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าหรืออาคารขนาดใหญ่ ที่ต้องการชะลอคุณภาพของสินค้าหรือเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น แอร์อุตสาหกรรมจึงเป็นแอร์รุ่นที่ต้องอยู่ในการดูแลของพนักงานและวิศวกรเป็นพิเศษ ซึ่งจะแบ่งระบบเป็น
น้ำยาแอร์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับระบบปรับอากาศ ระบบปรับอากาศ หรือ Air Conditioning คือ ระบบที่ทำหน้าที่ปรับสภาพของอากาศให้เหมาะกับสภาวะที่ผู้ใช้ต้องการ และเป็นระบบที่ใช้ได้ทั้งการปรับอากาศเพื่อการเก็บรักษาอาหาร และรวมถึงการปรับอากาศเพื่อการอยู่อาศัยในอาคาร ห้องพัก หรือในสำนักงาน และมีการควบคุมปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ โดยใช้น้ำยาแอร์ทำให้เกิดความเย็น ในบทความนี้เพื่อให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศมีประสิทธิภาพ น้ำยาแอร์.com มีความรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ และการเลือกน้ำยาแอร์ให้เหมาะกับระบบปรับอากาศมาแนะนำครับ น้ำยาแอร์ คืออะไร และมีกี่ชนิด น้ำยาแอร์ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสารทำความเย็น เป็นสารจำพวก CFCs (Chloro Fluoro Carbons) ซึ่งเป็นสารของเหลวที่ทำให้เกิดความเย็น ไม่มีพิษ ไม่มีกลิ่น คุณสมบัติของน้ำยาแอร์ เป็นตัวกลางทำหน้าที่รับ ดูดซับ และนำพาความร้อน เพื่อให้เกิดการขยายตัว หรือมีการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวให้กลายเป็นไอหรือแก๊ส โดยสารเหล่านี้จะมีจุดเดือดที่ต่ำกว่าสารทั่วไป จึงถูกนำมาใช้ในการทำความเย็น และสารทำความเย็นที่มีจุดเดือดต่ำจะถูกใช้ในการทำความเย็นที่อุณหภูมิต่ำ ส่วนสารทำความเย็นที่มีจุดเดือดสูงจะถูกใช้ในทำความเย็นที่อุณหภูมิสูง น้ำยาแอร์ ตามมาตรฐานของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้มีการกำหนดชนิดของสารทำความเย็นไว้ 3 ชนิด โดยมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้ สารทำความเย็นชนิดที่ไม่ระคายเคืองและไม่เป็นสารติดไฟ สารทำความเย็นชนิดที่เป็นสารติดไฟ สารทำความเย็นชนิดที่มีความระคายเคือง น้ำยาแอร์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับระบบปรับอากาศ การเลือกน้ำยาแอร์ให้เหมาะกับระบบปรับอากาศ จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับระบบปรับอากาศเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์
รอบรู้ปัญหา เรื่อง “น้ำยาแอร์” การทำงานของแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ ส่วนประกอบสำคัญก็คือ “น้ำยาแอร์” และก่อนที่เราจะมารอบรู้ปัญหา เรื่อง “น้ำยาแอร์” น้ำยาแอร์คืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ บทความนี้ น้ำยาแอร์.com ยังมีความรู้เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ตัวไหนบ้างที่ใช้แล้วช่วยลดโลกร้อน มาแนะนำอีกด้วย รอบรู้ปัญหา เรื่อง “น้ำยาแอร์” การใช้เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ประโยชน์ที่สำคัญได้แก่การให้ความเย็นภายในห้องหรือสถานที่นั้น ๆ แต่ระบบทำความเย็นอย่างเดียวอาจจะทำ ให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จึงต้องมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศด้วย นอกจากนั้นการเลือกน้ำยาแอร์ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานของเครื่องปรับอากาศมีประสิทธิภาพ และไม่สร้างมลพิษให้เป็นปัญหาต่อสภาพแวดล้อม น้ำยาแอร์คืออะไร น้ำยาแอร์ เป็นสารทำความเย็นชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติในการทำความเย็นด้วยการอัดสารความเย็นให้กลายเป็นไอเพื่อเป็นตัวสร้างความเย็นให้กับเครื่องปรับอากาศ ไม่มีกลิ่น และมีความปลอดภัยในการใช้งาน มีหลายชนิดให้เลือกใช้ นอกจากนั้นน้ำยาแอร์บางชนิดยังมีคุณสมบัติที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ใช้แล้วยังเป็นมิตรต่อชั้นบรรยากาศอีกด้วย น้ำยาแอร์มีกี่ชนิด น้ำยาแอร์ชนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุดสำหรับแอร์บ้าน มีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ น้ำยาแอร์ R22 น้ำยาแอร์ R410A และ น้ำยาแอร์ R32 ส่วนประสิทธิภาพในการทำความเย็นของน้ำยาแอร์แต่ละชนิดแตกต่างกัน ดังนี้ น้ำยาแอร์ R22 น้ำยาแอร์ R22 เป็นชนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุดสำหรับแอร์บ้าน
น้ำยาในกลุ่ม HFCs จะถูกแบนแล้วหรือ? เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ระบบทำความเย็น เกือบทั้งหมดซึ่งต้องใช้สารทำความเย็น หรือที่เรียกว่า น้ำยาแอร์ (Refrigerants) สารทำความเย็นที่ถูกใช้ในปัจจุบันจะเป็นประเภทสาร HFCs เช่น R32 ,R410A,R134a เป็นต้น เพื่อจะมาทดแทนสารทำความเย็นประเภท HCFCs อย่างน้ำยา R22 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่ถูกลดเลิกในการผลิตแล้ว สารทำความเย็น HFCs ถึงจะเป็นสารที่มีศักยภาพในการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนต่ำ (OPD) แต่เป็นสารที่มีศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนสภาวะเรือนกระจกที่สูง (GWP) ในการประชุมของประเทศภาคีสมาชิกพิธีสารมอนทรีออล ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2016 ที่ กรุงคิกาลี (Kigali) และได้มีข้อตกลงร่วมกัน ที่เรียกว่า Kigali Amendment ในการลดปริมาณการใช้ และการผลิต สารทำความเย็นประเภท HFCs ลดลงอีก 85% ของปริมาณการใช้ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีแผนการลดการใช้สารเหล่านี้ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เกือบทั้งหมดจะเริ่มมีการควบคุมปริมาณอย่างต่ำ 10% ในปี ค.ศ. 2019 เป้าหมายที่จะให้ลดลง 85% ในปี
หันมากู้โลกของเรากันเถอะ ทำความรู้จักน้ำยาแอร์ตัวไหนบ้างที่ช่วยลดโลกร้อน สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศนั้น ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของก๊าซในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดภาวะที่โลกร้อนขึ้น การที่โลกร้อนขึ้นเพราะว่ามนุษย์เราเป็นต้นเหตุโดยเฉพาะการใช้พลังงานที่มากขึ้นเนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ และอีกหลายสิ่งหลาย ซึ่งน้ำยาแอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ในการทำให้โลกร้อนขึ้น น้ำยาแอร์ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเย็นของระบบทำความเย็น ซึ่งแบ่งเป็นหลายประเภทตามการใช้งานที่เหมาะสม โดยในอดีต น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็นมีความคงตัวสูงและมีประสิทธิภาพต่ออุปกรณ์ทำความเย็นค่อนข้างสูง แต่ส่งผลเสียต่อ สภาพแวดล้อม ปัจจุบันนี้มีหลายพื้นที่ ที่ใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอนาคตของเครื่องปรับอากาศ การใช้สารทำความเย็นจะต้องไม่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ปกติสารทำความเย็นจะเป็นสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศและมีค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming Potential : GWP ) สูง จากเดิมเครื่องปรับอากาศส่วนมากจะใช้น้ำยา R22 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่ทำลายชั้นบรรยากาศ และทำให้เกิดภาวะโลกร้อนสูง กฎหมายจึงกำหนดให้เลิกผลิตในปี พ.ศ. 2560 น้ำยาแอร์ที่ช่วยลดโลกร้อนมีดังนี้ น้ำยาแอร์ R32 เป็นสารประกอบเดียว ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน (OPD=0) และก่อให้เกิดค่าสภาวะเรือนกระจกที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำยาแอร์ตัวอื่น ใช้แทนน้ำยาแอร์ R22 ใช้ในส่วนของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเรือนและอาคารทั่วไปแต่มีข้อเสียตรงที่ตัวน้ำยามีคุณสมบัติติดไฟ แต่ติดไฟในระดับเล็กน้อย น้ำยาแอร์ R1234yf เป็นน้ำยาแอร์ที่ใช้ในรถยนต์ตัวใหม่ เกิดจากการพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทน R134a ที่มีค่า GWP
R32 vs R410A เลือกใช้ตัวไหนดี? ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้ภูมิอากาศของประเทศมีลักษณะเป็นแบบร้อนชื้น ทำให้อากาศร้อนแทบทั้งปี เครื่องปรับอากาศ จึงมีความสำคัญกับของคนไทยมากขึ้น จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเครื่องปรับอากาศกันเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้เกิดความสุขสบายในการดำรงชีวิต เครื่องปรับอากาสที่ใช้ตามบ้านจะใช้น้ำยาแอร์หลักๆ 2 ชนิด คือ R32 และ R410A คุณสมบัติ และ ความแตกต่างของ น้ำยาแอร์ R 32 และ R 410A มีดังต่อไปนี้ 1.น้ำยาแอร์ R32 เป็นสารประกอบเดียว ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน (ODP=0) และก่อให้เกิดค่าสภาวะเรือนกระจกน้อยที่สุด เหมือนเทียบกับน้ำยาแอร์ตัวอื่น ใช้แทน R22 ในส่วนของเครื่องปรับอากาศ ภายในอาคาร บ้านเรือน แต่มีข้อเสีย คือ ตัวน้ำยาแอร์ติดไฟในระดับเล็กน้อย และมีแรงดันที่สูง การเติมน้ำยาข้าระบบและอุปกรณ์อะไหล่ของ R32 คือ การเติมน้ำยาเข้าระบบ R32 สามารถเติมเพิ่มได้เลย สำหรับเครื่องมือ อะไหล่ และอุปกรณ์ R32 และ
สงสัยหรือไม่ แอร์ที่เปิดในห้างใช้แอร์แบบไหน และมีหลักการทำงานอย่างไร ? สังคมไทยในปัจจุบัน มีการเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการในห้างสรรพสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ หันมาเดินห้างกันเยอะ เพราะในห้างเดินแล้วไม่เหนื่อยมีอากาศที่เย็นสบาย แน่นอนว่าระบบแอร์ในห้างคงไม่ใช่ระบบแอร์ที่ใช้กันตามบ้านพักอาศัย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ระบบปรับอากาศอีกประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ในห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรมและพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ คือ ระบบชิลเลอร์ ระบบชิลเลอร์ คือ เครื่องทำความเย็นที่มีขนาดใหญ่ ที่มีหน้าที่ในการผลิตความเย็น ปรับลดอุณหภูมิ โดยใช้น้ำเป็นตัวหลักในการแลกเปลี่ยน หรือการถ่ายเทความเย็นจากตัวเครื่องชิลเลอร์ ส่งไปยังเครื่องปรับอากาศในส่วนพื้นที่ต่างๆและยังเป็นระบบปรับอากาศมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า และควบคุมงบประมาณหรือต้นทุนได้เป็นอย่างดี ระบบชิลเลอร์มีหลักการทำงาน คือ การควบคุมอุณหภูมิด้วยตัวกลางเช่น น้ำ หรือลมอากาศ โดยใช้การแลกเปลี่ยนเป็นสถานะของสารทำความเย็น และนำความเย็นจากการแลกเปลี่ยนสถานะนั้นไปใช้งาน สามารถ แบ่งเป็น 2 ระบบ ดังนี้ ระบบการระบายความร้อนด้วยน้ำ จะอาศัยน้ำเข้าไปใช้งานในระบบ โดยการนำเอาน้ำมาลดอุณหภูมิลง แล้วก็นำเอาน้ำจากท่อน้ำมาใช้งานภายในพื้นที่ที่ต้องการ ซึ่งในพื้นที่นี้ ก็จะเหมือนเป็นตู้แอร์ มาวางตามจุดต่างๆ น้ำที่ผ่านมาก็จะผ่านเอ็กซ์แพนชั่นวาล์วปกติ มาผ่านคอยล์เย็น และก็จะมีโบเวอร์ทำหน้าที่ดูดลมเข้า และเป่าลมออก จะมีปล่องนำลมออกไปใช้งานในจุดต่างๆ จะทำให้เกิดความเย็นขึ้นในพื้นที่นั้นๆ เมื่อน้ำยาแอร์ซับความร้อนจากห้องนั้นมา จะกลายสภาพเป็นไอที่มีความดันต่ำก็จะระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยการนำระบบคูลลิ่งเข้ามาช่วย เมื่อน้ำออกจากท่อที่ผ่านการใช้งานแล้ว ก็จะวนมาที่คอยล์เย็นเช่นเดิม
5 สาเหตุที่ทำให้ให้แอร์บ้านพังไว ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นิยมใช้ในทุกครัวเรือน เพราะอากาศทุกวันนี้ร้อนขึ้น จึงทำให้คนเราหันมาใช้แอร์ในเกือบทุกบ้าน เพื่อคลายร้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน ถ้าเราอยากให้เครื่องปรับอากาศใช้งานได้ยาวนาน ไม่พังไวเกินไป เราควรรู้สาเหตุที่ทำให้แอร์พังไว และวิธีการดูแลรักษาเพื่อที่เครื่องปรับอากาศจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ สาเหตุที่ทำให้แอร์พังไว มีดังนี้ 1.การไม่ล้างแอร์เป็นเวลานานๆ ถ้าแอร์บ้านสกปรก สังเกตุจาก แอร์ที่เป่าลมออกมาและคอมเพรสเซอร์ก็ทำงานปกติ ให้สันนิษฐานว่า ต้องทำการล้างแอร์ ซึ่งความถี่ในการล้าง ควรปีละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ และหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ (ฟิลเตอร์) ทุกอาทิตย์ โดยการดึงแผ่นกรองออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า และตากทิ้งไว้ให้แห้งและนำมาใส่เข้าปกติ การเปิดประตูหรือหน้าต่างขณะแอร์ทำงาน การเปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้ ขณะที่แอร์ทำงาน จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป เพราะอากาศภายในห้อง มีขนาดใหญ่ กว่าคอมเพรสเซอร์จะทำงาน เพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องได้ ต้องใช้เวลานาน เครื่องจะทำงานหนักเกินไป ควรปิดประตูหรือหน้าต่างให้สนิทในขณะที่เปิดแอร์ การเปิด-ปิดแอร์บ่อยๆ จะทำให้ระบบการทำงานของไฟ จะกระชาก ทำให้สวิตช์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง การปิดรีโมทก็สำคัญ ควรปิดที่รีโมทก่อน รอให้หน้ากากเครื่องปรับอากาศพับสนิท แล้วค่อยปิดที่เบรกเกอร์ การปรับอุณหภูมิต่ำจนเกินไป การปรับอุณหภูมิห้อง ควรตั้งอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส
หลักการทำงานของตู้เย็น คือการถ่ายเทความร้อนภายในตู้เย็นให้ออกไปสู่ภายนอก โดยเกิดขึ้นจากเครื่องอัดไอหรือคอมเพรสเซอร์ จะอัดแก๊สของสารทำความเย็นให้เป็นของเหลวในคอยล์ร้อน หลังจากนั้นก็จะส่งผ่านต่อไปยังเครื่องระเหยซึ่งจะทำให้ความดันของเหลวลดลงจนเปลี่ยนสถานะจากแก๊สกลายเป็นไอ และจะนำพาเอาความร้อนนี้ออกไปเพื่อให้อุณหภูมิภายในตู้เย็นลดลง