ดูแลรถยนต์อย่างไรในหน้าฝน

Table of Contents

ดูแลรถยนต์อย่างไรในหน้าฝน

ประเทศไทยแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู จะมีฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน คือระหว่างกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี ประเทศไทยมีเมฆมาก จะพบกับร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทย จึงทำให้มีฝนตกชุก เมื่อเข้าสู่หน้าฝน หลายท่านคงไม่ค่อยถูกกับหน้าฝนเท่าไหร่ เพราะพอฝนตกมาทีไร รถก็จะติด แถมรถยนต์ของเราก็สกปรกอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ถ้ามีน้ำรอการระบายบนท้องถนน ก็จะทำให้รถยนต์ของเราเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นในหน้าฝนนี้ เราจึงควรจะเพิ่มการดูแลรถยนต์ของเราเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้

  1. ตรวจเช็คดูซีลยางขอบประตู ซีลยางขอบประตูรถนั้นทำหน้าที่ปิดช่องว่างระหว่างรอยขอบ

    ตรวจเช็คดูซีลยางขอบประตู
    ตรวจเช็คดูซีลยางขอบประตู

ประตู สามารถกันลม รวมถึงการรั่วซึมของน้ำฝนที่จะเข้ามาในรถด้วย สำหรับตัวซีลยางขอบประตูนั้นควรตรวจเช็คทุกๆ 4เดือน ตรวจดูว่าตัวซีลยางมีรูปทรงที่บิดเบี้ยวอยู่หรือไม่ เมื่อใช้มือบีบจะต้องไม่นิ่มไป หรือแข็งไป ตรวจสอบรอยแตก หากมีสภาพที่ไม่เหมาะสม ควรรีบทำการเปลี่ยนทันที เพราะหากเกิดการรั่วซึมจะทำให้ภายในห้องโดยสารเกิดความเสียหาย จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่บานปลายได้

  1. รถยนต์ถ้าลุยฝนให้รีบล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไปก่อน

    รถยนต์ถ้าลุยฝนให้รีบล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไปก่อน
    รถยนต์ถ้าลุยฝนให้รีบล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้คราบสกปรกหลุดออกไปก่อน

แล้วค่อยเช็ครถยนต์ด้วยผ้าเช็ดรถ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดคราบรอยหยดน้ำเกาะฝั่งแน่นขึ้น และที่สำคัญ ไม่ควรเช็ดรถทันทีหลังผ่านการตากฝนมา เพราะน้ำฝนมักปนเปื้อนฝุ่น อาจจะทำให้เกิดคราบสกปรกติดรถหรือเกิดรอยข่วนแมวได้ และจะทำให้เกิดผลเสียต่อสีรถยนต์ด้วย

  1. เช็คใบปัดน้ำฝน เป็นสิ่งที่ใช้บ่อยสุดในช่วงหน้าฝน จึงควรตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน ว่ามีสภาพที่ดี

    ตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน ว่ามีสภาพที่ดี
    ตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน ว่ามีสภาพที่ดี

อยู่หรือไม่ หากระหว่างใช้งานแล้วมีเสียงดัง แสดงว่าตัวยางมีการแข็งตัว หรือเมื่อใช้แล้วมีรอยเส้นตามแนวปัด แสดงว่าตัวยางมีการสึกหรอ มีรอยแตก หรือเป็นรอยขุย จะต้องทำการเปลี่ยน เพราะหากใช้ไปนานวันเข้า อาจจะทำให้กระจกเป็นรอยได้ และเมื่อใช้งานในช่วงฝนตก ก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้จากทัศนวิสัยที่ไม่ดี

  1. การเคลือบสีรถช่วยได้ หลายคนหลีกเลี่ยงการเข้าคาร์แคร์ช่วงหน้าฝน แต่รู้หรือไม่ว่าการนำ

    การเคลือบสีรถช่วยได้
    การเคลือบสีรถช่วยได้

รถยนต์ไปเคลือบสีจะช่วยป้องกันการเกาะของน้ำ ป้องกันคราบสกปรกต่างๆได้ดี ทำให้เมื่อเราล้างน้ำเปล่าแล้วทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกได้ง่ายยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังช่วยรักษาสีของรถยนต์เราได้ดีอีกด้วย เนื่องจากน้ำฝนมีความเป็นกรดอ่อนๆ อาจจะทำให้กัดกินสีเคลือบรถยนต์เราได้ แล้วยังทำให้สีรถยนต์ซีดลงได้

  1. หมั่นเช็คสภาพรถยนต์ การขับรถยนต์ในหน้าฝนนี้ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก และเป็น

สาเหตุให้กลไกต่างๆ สึกหรอเร็วขึ้น ฉะนั้นควรหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ในส่วนต่างๆ ทั้งน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง ว่ามีน้ำเข้าไปผสมหรือไม่ รวมถึงตรวจดู แบตเตอรี่ , ไดชาร์จ , ระบบเบรก , ล้อรถยนต์ให้มีความพร้อมในการใช้งานอยู่เสมอเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย

  1. ตรวจดูสายไฟและซีลยางภายในเครื่องยนต์ เช็คสายไฟและซีลยางภายในเครื่องยนต์ ตรวจดูว่า

    ตรวจดูสายไฟและซีลยางภายในเครื่องยนต์
    ตรวจดูสายไฟและซีลยางภายในเครื่องยนต์

สายไฟมีร่องรอยฉีกขาดหรือไม่ เพราะถ้ามีฉีกขาดหรือมีรอยรั่ว อาจทำให้น้ำซึมเข้าไปจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร จะทำให้เป็นอันตรายมาก ส่วนซีลยางภายในเครื่องยนต์ ต้องตรวจสอบว่าไม่มีการเสื่อมสภาพ ไม่มีรอยขาด เพราะถ้าเกิดการรั่วซึมอาจทำให้น้ำเข้าไปสร้างความเสียหายแก่เครื่องยนต์ได้

จากบทความข้างต้นที่กล่าวมา หน้าฝนนี้เราจึงควรเพิ่มการดูแลรถยนต์ของเราเป็นพิเศษ เพื่อให้รถยนต์ของเรานั้นอยู่กับเราไปนานๆ จะต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ นอกจากจะเป็นการรักษารถยนต์แล้วยังเป็นการรักษาความปลอดภัยให้แก่ตัวเราเองด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลแอร์รถยนต์ หรือ น้ำยาแอร์บ้าน อะไหล่แอร์บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ น้ำยาแอร์ดอทคอม จำหน่ายน้ำยาแอร์บ้านทุกยี่ห้อ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบแอร์บ้านที่มีคุณภาพมาตรฐาน และมีพนักงานบริการตอบคำถามให้คำแนะนำจากประสบการณ์ด้านการจำหน่ายน้ำยาแอร์มากว่า 20 ปี ติดต่อที่ Line @namyaair หรือโทร 0943413124

สนใจสั่งซื้อน้ำยาแอร์ กับน้ำยาแอร์ดอทคอม โทรเลย 0943413124

Add Line : @namyaair เพื่อสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *