ปัญหาสารทำความเย็นอาจเกิดขึ้นในระบบทำความเย็น และระบบปรับอากาศ

ปัญหาสารทำความเย็นอาจเกิดขึ้นในระบบทำความเย็น และระบบปรับอากาศ

การทำงานของระบบทำความเย็นโดยทั่วๆไป ถ้ามีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ หรือน้ำยาทำความเย็นไม่ได้มาตราฐานหรือใช้ผิดประเภทแล้ว  อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้ เช่น

𝟭. การรั่วไหล  การรั่วไหลของสารทำความเย็น

สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ มีส่วนประกอบเสียหาย หรืออุปกรณ์เสื่อมสภาพ การรั่วไหลไม่เพียงแต่ลดประสิทธิภาพการทำความเย็นของระบบ แต่ยังก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นสารทำความเย็นที่มี GWP สูง หรือมีค่า ODP ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม   สัญญาณของการรั่วไหลของสารทำความเย็น คือ

  • อุณหภูมิไม่เย็นเท่าที่ควร หรือมีการไหลของอากาศน้อย ในการไหลเวียนของอากาศต่ำอาจแก้ไขได้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ หรือทำความสะอาดทุกๆ 1-3 เดือนระหว่างการใช้งานระบบ
  • ระบบทำงานสั้น (เปิดและปิดอย่างรวดเร็ว) หากเกิดกรณีนี้หลังการติดตั้งใหม่ๆ อาจหมายถึงระบบทำความเย็น/ปรับอากาศมียูนิตที่ใหญ่เกินไปสำหรับความต้องการ หรือพื้นที่ของคุณ
  • ค่าใช้จ่ายทางพลังงานพุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล สามารถเปรียบเทียบกับค่าพลังงานในเดือนนี้ของปีที่แล้ว หากค่าบริการปัจจุบันสูงขึ้นมาก แสดงว่ามีบางอย่างที่ทำให้ระบบทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
  • คุณได้ยินเสียงฟู่ หรือมีฟองอากาศปรากฏขึ้นในระบบ หมายความว่านั่นคือเสียงไอเสียของสารทำความเย็น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในรูปแบบของเหลวหรือก๊าซ
  • มีน้ำแข็งก่อตัวบนคอยล์หรือท่อส่งสารทำความเย็น

ปัญหาการรั่วไหลของสารทำความเย็น เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรปล่อยทื้งไว้นาน โดยไม่ดำเนินการแก้ไข เพราะการรั่วไหลของสารทำความเย็น ไม่เพียงทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และต้นทุน เท่านั้น แต่การใช้ระบบทำความเย็นที่มีสารทำความเย็นอยู่ในระบบต่ำ ยังส่งผลให้คอมเพรสเซอร์เสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด หากอุปกรณ์เริ่มแสดงสัญญาณดังที่กล่าวไป สามารถตรวจรอยรั่วของสารทำความเย็นเบื้องต้นเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงได้

𝟮. ประจุสารทำความเย็นไม่เพียงพอ

หากประจุสารทำความเย็นในระบบต่ำเกินไป อาจทำให้ความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำความเย็นลดลง ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากการรั่วไหลหรือการติดตั้งที่ไม่เหมาะสม

𝟯. การปนเปื้อน  การปนเปื้อนของสารทำความเย็น

สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีสิ่งแปลกปลอม เช่น อากาศ ความชื้น หรือสารทำความเย็นที่ไม่เข้ากันกับน้ำมันหล่อลื่นเข้าสู่ระบบ การปนเปื้อนอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบทำความเย็น หากเกิดปัญหาขึ้นแล้ว จำเป็นต้องถ่ายเท เปลี่ยนสารทำความเย็น และทำความสะอาดทั้งระบบ ก่อนเกิดปัญหาใหญ่ตามมา

𝟰. สารทำความเย็นผิดประเภท

การทำความเย็นและปรับอากาศแต่ละระบบได้รับการออกแบบมาให้ทำงานกับสารทำความเย็นเฉพาะ การใช้สารทำความเย็นผิดประเภทในระบบทำความเย็นอาจทำให้เกิดปัญหาและประสิทธิภาพการทำงานต่ำ อุปกรณ์เสียหาย และระบบทั้งหมดอาจล้มเหลวได้

𝟱. สารทำความเย็นที่เสื่อมสภาพ

สารทำความเย็นที่เสื่อมสภาพ
สารทำความเย็นที่เสื่อมสภาพ

เมื่อเวลาผ่านไป สารทำความเย็นที่ไม่ได้มาตรฐาน สามารถเสื่อมสภาพหรือมีประสิทธิภาพน้อยลงในระหว่างไหลเวียนอยู่ในระบบของคุณได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น และระบบอาจทำงานผิดปกติ  หากคุณสงสัยว่าสารทำความเย็นมีปัญหาในระบบทำความเย็นของคุณ ขอแนะนำให้ปรึกษากับช่างเทคนิคหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความเย็น ที่สามารถวินิจฉัยปัญหา ซ่อมแซมการรั่วไหล เติมสารทำความเย็น และตรวจสอบการทำงานของระบบได้ สิ่งสำคัญคือต้องแก้ไขปัญหาสารทำความเย็นในทันทีเพื่อรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของระบบทำความเย็นที่ยาวนานในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้น คุณภาพของสารทำความเย็น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้ระบบทำความเย็นของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสถียร และต่อเนื่อง

 

น้ำยาแอร์สำหรับระบบทำความย็น และระบบปรับอากาศ หากว่าไม่มีการรั่วซึมของน้ำยาแอร์แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเติมเพิ่มเข้าไปบ่อยๆ เพราะเป็นระบบปิด แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องหมั่นเช็คอุณหภูมิความเย็นให้คงที่อย่างสม่ำเสมอ  ถ้าหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานของน้ำยาแอร์ของตู้เย็นและตู้แช่ สามารถโทรติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น้ำยาแอร์ดอทคอม ศูนย์รวมน้ำยาตู้เย็น ตู้แช่ทุกชนิด ที่ Line @namyaairหรือ โทร. 0943413124

สนใจสั่งซื้อน้ำยาแอร์ กับน้ำยาแอร์ดอทคอม โทรเลย 0943413124

Add Line : @namyaair เพื่อสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับน้ำยาแอร์ คลิ๊กเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *